กรมการค้าต่างประเทศพบ 3สินค้าสวมรอยส่งออกนอกประเทศ

กรมการค้าต่างประเทศพบ 3สินค้าสวมรอยส่งออกนอกประเทศ

กรมการค้าต่างประเทศ ตรวจเข้มสินค้าสวมรอยถิ่นกำเนิดสินค้าไทยไปส่งออก  พบ “น้ำผึ้ง-สปริงฟูก-อะลูมิเนียมฟอยล์”สวมรอยเป็นสินค้าไทยส่งออกนอกประเทศ ขณะที่ประเทศผู้นำเข้าขึ้นบัญชีดำพร้อมเรียกเก็บภาษีเพิ่มและโดนค่าปรับ

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์การแข่งขันทางการค้ามีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะการกำหนดมาตรการทางการค้าต่างๆ เช่น มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) รวมถึงการเกิดสงครามการค้า (Trade War) ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ทำให้ประเทศที่ถูกกำหนดมาตรการต่างๆ ทำการหลบเลี่ยงการชำระภาษีโดยใช้การแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าเพื่อการส่งออกมากขึ้น และใช้ไทยเป็นฐานในการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้า ซึ่งปัญหาการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าที่เกิดขึ้น กรมได้ติดตามและตรวจสอบสถิติการค้าสินค้าเฝ้าระวังกว่า 222 รายการอย่างใกล้ชิด 6 กลุ่ม ได้แก่ 1.เครื่องจักรไฟฟ้า 2.เครื่องจักรกล 3.เฟอร์นิเจอร์ 4.พลาสติก 5.ยานยนต์ และ 6.สินค้าไม้และของที่ทำด้วยไม้ พร้อมทั้งได้เข้าตรวจสอบการผลิตแล้วจำนวน 14 รายการ จากผู้ประกอบการจำนวน 19 ราย

  160153344117

นายกีรติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า สินค้าบางรายการมีการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าไทยแล้วส่งออกต่อไปยังต่างประเทศจำนวน 3 รายการจาก 14 ราย ประกอบด้วย น้ำผึ้ง  ซึ่งทำให้เกิดความเสียหาย 300, 000 ดอลลาร์ อะลูมิเนียมฟอยล์ 100,000  ดอลลาร์  สปริงในฟูก 400,000  ดอลลาร์  เป็นต้น ซึ่งกรณีการตรวจพบการแอบอ้างดังกล่าวประเทศผู้นำเข้าจะขึ้นบัญชีดำ (Blacklist) กับผู้ส่งออกไทย และจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากผู้นำเข้าเพิ่มเติมตามที่กำหนดพร้อมค่าปรับ และกรมฯ จะขึ้นทะเบียนสินค้าเฝ้าระวังในระบบและเพิ่มความเข้มงวดในการออก Form C/O    หรือหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าแบบทั่วไป โดยกำหนดให้ผู้ส่งออกต้องแสดงหลักฐานเอกสารแหล่งที่มาของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตด้วย

ที่ผ่านมากรม ได้เข้มงวดในการตรวจสอบบริษัทที่มีแนวโน้มอาจแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าเพื่อการส่งออกมากขึ้นโดยเฉลี่ยออกตรวจเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งได้รับข้อมูลทั้งจากการติดตามของกรมเอง และได้รับข้อมูลจากประเทศผู้นำเข้า รวมทั้งให้ความร่วมมือกับหน่วยงานประเทศผู้นำเข้า ได้แก่ ศุลกากรสหรัฐฯ (CBP) สำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ (HSI) หน่วยงานต่อต้านการฉ้อโกงของคณะกรรมาธิการยุโรป (OLAF) และศุลกากรเยอรมนี (ZKA) สำหรับการตรวจสอบสินค้าไปยังประเทศดังกล่าว

โดยสังเกตจากปริมาณการส่งออกของบริษัทนั้น ๆ ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างผิดปกติ และเมื่อลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมบริษัทก็ไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดของวัตถุดิบที่นำมาผลิตสินค้าได้ เช่น กรณีของการส่งออกน้ำผึ้งของบริษัทที่แอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าก็พบว่าได้สั่งนำเข้าไซรัปมาจากจีนเพื่อผสมในน้ำผึ้งทั้งๆที่ระบุว่าเป็นน้ำผึ้งแท้100% จากไทย ดังนั้นจึงถือว่าบริษัทดังกล่าวมีความผิด

ทั้งนี้ตั้งแต่เดือนม.ค. -ก.ย.  2563 ไทยสามารถส่งออกสินค้ากลุ่มเฝ้าระวังได้มูลค่ากว่า 13,000 ล้านดอลลาร์ รวมทั้งไม่มีการปลอมแปลง Form C/O หรือนำ Form C/O มาใช้แอบอ้างถิ่นกำเนิด และที่สำคัญประเทศคู่ค้าจะไม่กำหนดมาตรการทางการค้ากับไทย ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันทางการค้าของไทยในตลาดโลกได้เพิ่มมากขึ้