ป.ป.ช.ชี้มูล“นิพนธ์”ผิดไม่เบิกจ่ายค่ารถอเนกประสงค์ 50 ล.ให้เอกชน
ป.ป.ช.ชี้มูล“นิพนธ์”ผิดไม่เบิกจ่ายค่ารถอเนกประสงค์ 50 ล.ให้เอกชน –เจ้าตัวยันไม่ลาออกเก้าอี้รมช.มหาดไทย อ้างถูกสอบระหว่างดำรงตำแหน่งนายกฯอบจ.สงขลา
จากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน กรณีกล่าวหานายนิพนธ์ บุญญามณี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา (ปัจจุบันเป็น รมช.มหาดไทย) กรณีละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ มิได้อนุมัติงบประมาณเบิกจ่ายเงินให้กับบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด เป็นค่ารถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ 2 คัน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 50,850,000 บาท
โดยทำสัญญาซื้อขายกันเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2556 โดยเมื่อปลายเดือน มิ.ย. 2563 ที่ผ่านมา บริษัท พลวิศว์ฯ มีหนังสือทวงถามไปยังเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ล่าสุดแหล่งข่าวในสำนักงาน ป.ป.ช. ระบุว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายนิพนธ์ บุญญามณี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา กรณีไม่อนุมัติเบิกจ่ายเงินแก่บริษัท พลวิศว์ฯ เป็นค่ารถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ 2 คัน วงเงิน 50,850,000 บาท โดยสำนักงาน ป.ป.ช. เตรียมจะเปิดแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริง และรายละเอียดคดีนี้ในช่วงสัปดาห์หน้า
นายนิพนธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดว่า ป.ป.ช. มีการชี้มูลความผิดตนไปแล้วหรือไม่ ขอตรวจสอบข้อมูลก่อน อย่างไรก็ดียืนยันว่ากรณีนี้ ไม่ได้เป็นเรื่องทุจริต แต่มีการร้องเรียนว่าการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ 2 คัน 50.8 ล้านบาทนั้น มีการฮั้วประมูล มีการปลอมลายมือชื่อ และตนเห็นหลักฐานทุกอย่าง ดังนั้นเพื่อรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน จึงยังไม่ได้มีการอนุมัติเบิกจ่าย จนถึงขณะนี้เท่าที่ทราบ อบจ.สงขลา ยังไม่ได้มีการเบิกจ่ายเงินให้แก่เอกชนรายดังกล่าวเลย แล้วอย่างนี้จะทำให้ อบจ.สงขลา เสียหายได้อย่างไร
“ผมยกตัวอย่างคดีอื่นๆ เช่น คดีคลองด่าน คดีรถดับเพลิง กทม. ที่มีการฮั้วกันในยุคผู้บริหารก่อนหน้าน พอผู้บริหารคนใหม่มา มีการเบิกจ่ายเงิน เลยผิดด้วย ผมยึดหลักการนี้คือเมื่อเห็นว่ามีการกระทำผิด มีการฮั้วกัน ผมเลยยังไม่อนุมัติเบิกจ่าย ราชการยังไม่เสียหาย แล้วจะมีความผิดได้อย่างไร” นายนิพนธ์ กล่าว
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีการฮั้วจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์นั้น ขณะนี้ได้หลักฐานมาจากต่างประเทศหลายแห่ง เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ออสเตรเลีย หลักฐานจากนอร์เวย์ สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย เป็นต้น ที่ชี้ให้เห็นว่า คู่เทียบเอกชนในการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางดังกล่าว ไม่ได้มีตัวตนจริง และมีการส่งหลักฐานบางส่วนให้แก่ ป.ป.ช. ไปแล้วระหว่างการไต่สวน
นอกจากนี้ในการจัดซื้อรถคันดังกล่าว เกิดขึ้นในยุคก่อนที่ตนจะเข้ามาเป็นนายก อบจ.สงขลา เมื่อตนมาเป็น ถึงขั้นตอนการจ่ายเงินกันแล้ว แต่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาก่อน จึงดำเนินการตรวจสอบ และยังไม่ได้อนุมัติเบิกจ่ายเงิน ดังนั้นถ้าหากมีการสอบสวนประเด็นฮั้วจนหมดสิ้นกระบวนความแล้วพบว่า มีการฮั้วจริง สัญญาการจัดซื้อครั้งนั้นเป็นโมฆะ สูญเปล่าแต่แรก นี่คือหลักการ
“ผมยืนยันเลยว่าเรื่องนี้ไม่มีการทุจริต ยังไม่มีการจ่ายเงินให้แก่เอกชน แต่มีการร้องเรียนเรื่องฮั้วประมูล ถ้าเอกชนผิดจริง ทำกับว่าสัญญาเป็นโมฆะ ผมยืนยันได้เลยว่าผมไม่ได้ทุจริต พร้อมจะชี้แจงเอกสารหลักฐานทุกอย่างที่ได้มาจากต่างประเทศแก่สื่อมวลชนด้วย” นายนิพนธ์ กล่าว
เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อไป หาก ป.ป.ช. แถลงข่าวอย่างเป็นทางการจะลาออกหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ขอตรวจสอบรายละเอียดจากทาง ป.ป.ช. ก่อน แต่ต้องเข้าใจว่าตำแหน่งที่ตนถูกกล่าวหานั้น คือ นายก อบจ.สงขลา ไม่ใช่ตำแหน่งปัจจุบัน (รมช.มหาดไทย) ดังนั้นเรื่องที่ถูกกล่าวหาจึงเป็นตำแหน่งในอดีต แต่ยืนยันได้ว่าถ้าหากมีการชี้มูลจริง ไม่ได้เป็นการชี้มูลเกี่ยวกับเรื่องทุจริตแต่อย่างใด และพร้อมจะสู้คดีต่อในชั้นอัยการ และชั้นศาลต่อไป