ครม.ทุ่มงบกว่า 10,000 ลบ. กระตุ้นการจ้างงานบัณฑิตจบใหม่
ครม.ทุ่มงบกว่า 10,000 ลบ. กระตุ้นการจ้างงานบัณฑิตจบใหม่ หวังลดความยากจนในระดับท้องถิ่น ตั้งเป้ากว่า 6 หมื่นคน .
(7 ตุลาคม 2563) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยวานนี้ (6ต.ค.)ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบอนุมัติเงินกู้ 10,629.6 ล้านบาท ให้กับโครงการยกระดับเศรษฐกิจรายตำบล หรือเรียกว่า 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความยากจน
ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายสามารถเป็นผู้ที่ได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาจากมาตรการของภาครัฐที่ผ่านมาได้ แต่จะต้องไม่เป็นบุคคลที่ได้รับจ้างงานภายใต้แผนงาน/โครงการที่มีจุดเน้นเกี่ยวกับการจ้างงานในแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ ครม. ได้อนุมัติไปแล้ว โดยจะดำเนินการผ่านกิจกรรมต่างๆ ดังนี้
1. การจ้างงานตำบลละ 20 คน (จ้างนักศึกษา/บัณฑิตจบใหม่/ประชาชนทั่วไป) เพื่อดำเนินกิจกรรม ได้แก่ การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) การเฝ้าระวังประสานงานและติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 การจัดทำข้อมูลราชการในพื้นที่เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ การจ้างงานเพื่อการพัฒนาสัมมาชีพและสร้างอาชีพใหม่ การสร้างและพัฒนา Creative Economy การนำองค์ความรู้ไปช่วยบริการชุมชนและการส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม การพัฒนาทักษะอาชีพใหม่ และการถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม
2. การสนับสนุนการดำเนินโครงการ/กิจกรรมตามรูปแบบกิจกรรมที่จะเข้าไปดำเนินการในพื้นที่ที่สถาบันอุดมศึกษารับผิดชอบตามบริบทของพื้นที่ให้แก่ชุมชน 3,000 ตำบล ได้แก่ การพัฒนาสัมมาชีพ และการสร้างอาชีพใหม่ (ยกระดับสินค้า OTOP/อาชีพอื่นๆ) การสร้างและพัฒนา Creative Economy (การยกระดับการท่องเที่ยว) การนำองค์ความรู้ไปช่วยบริการชุมชน (Health Care/ เทคโนโลยีด้านต่างๆ) และการส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม/Circular Economy (การเพิ่มรายได้หมุนเวียนให้แก่ชุมชน)
3. สนับสนุนการบริหารจัดการและการดำเนินการของ National System Integrator และ Regional System Integrator และการดำเนินการของ System Integrator เพื่อบูรณาการโครงการและข้อมูลในภาพรวมของการดำเนินการ
สำหรับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่
- ประชาชนทั่วไป เป็นประชาชนในพื้นที่หรือใกล้เคียงที่ว่างงานและไม่ได้รับค่าตอบแทน ค่าจ้าง จากหน่วยงานอื่นของภาครัฐและเอกชน จ้างในอัตรา 9,000 บาท/เดือน
- บัณฑิตจบใหม่ที่สำเร็จการศึกษาไม่เกิน 3 ปี และมีความรู้ความสามารถที่ตรงต่อภารกิจในการปฏิบัติงาน จ้างในอัตรา 15,000 บาท/เดือน
- นักศึกษาหรือผู้ที่อยู่ระหว่างการศึกษาในระดับอุดมศึกษา อาชีวศึกษา จากสถาบันการศึกษาต่างๆ และมีความรู้ความสามารถที่ตรงต่อภารกิจในการปฏิบัติงาน โดยจ้างในอัตรา 5,000 บาท/เดือน
ส่วนผลที่คาดว่าจะได้รับ คือ เกิดการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ตามปัญหาและความต้องการของชุมชน ส่งผลต่อการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมของตำบลเป้าหมาย เกิดการจ้างงานที่ตอบสนองต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ และเกิดเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ระหว่างสถาบันอุดมศึกษาและชุมชน
ทั้งนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า อว. จะดำเนินการจ่ายค่าจ้างผ่านบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก และมีการเชื่อมโยงข้อมูลการจ้างงานกับแพลตฟอร์มแรงงาน (Labour Platform) ของกระทรวงแรงงาน เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มเป้าหมายของโครงการฯ ซ้ำซ้อนกับโครงการ/มาตรการอื่นๆ ของภาครัฐทั้งหมดต่อไป