เตือนตะขาบกัดให้รีบรักษา เพราะอาจติดเชื้อจนถึงแก่ชีวิตได้
แพทย์ผิวหนัง เตือนผู้ที่ถูกตะขาบกัดควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา เพราะอาจมีความเสี่ยงจากการติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ พร้อมแนะวิธีการรักษาและการปฏิบัติตนให้ถูกวิธี
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่อดีตนักมวยชื่อดังได้เสียชีวิตและญาติระบุว่าถูกตะขาบกัดที่บริเวณต้นขา มีอาการหนาวสั่น เวียนหัว เป็นไข้ แล้วปล่อยไว้หลายวันจนแผลติดเชื้อ จึงเข้ารับการรักษา ทำให้มีอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ประกอบกับมีโรคประจำตัวเบาหวานจึงมีอาการโคม่าจนเสียชีวิตนั้น กรณีนี้ขอเรียนว่า ตะขาบ (Centipedes) จัดอยู่ใน Class Chilopoda เป็นสัตว์ขาข้อที่พบได้ทั่วไปในแถบร้อนชื้น อาศัยอยู่บนบก ตะขาบมีขนาดความยาวลำตัวตั้งแต่ 3 – 8 เซนติเมตร ลำตัวแบนราบ มีปล้อง 15 – 100 ปล้อง แต่ละปล้องมีขา 1 คู่ ส่วนหัวแยกจากลำตัวชัดเจน มีหนวด 1 คู่ โดยมีเขี้ยวพิษ 1 คู่ ซึ่งดัดแปลงมาจากปล้องแรกของลำตัวเชื่อมต่อกับต่อมพิษ พิษของตะขาบประกอบด้วยสารสองกลุ่มใหญ่ คือ 1. สารที่เป็นเอนโซน์ หรือน้ำย่อย ซึ่งสารหลักในกลุ่มนี้คือ proteinases และ esterases 2. สารก่อปฏิกิริยาอักเสบต่อร่างกาย ได้แก่ hydroxytryptamine หรือ cytolysin
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการเมื่อถูกตะขาบกัด จะพบรอยเขี้ยว 2 รอย ลักษณะเป็นจุดเลือดออกตรงบริเวณที่ถูกกัด สารพิษจากตะขาบจะทำให้เกิดการอักเสบ ปวดบวมแดง ร้อน และชาตรงบริเวณที่ถูกกัด อาการปวดมักจะมีความรุนแรงปานกลางถึงมาก โดยอาจจะมีอาการปวดแปลบ (paresthesia) ร่วมด้วย อาการแทรกซ้อน อาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนตรงบริเวณที่ถูกกัด อาจเป็นแผลไหม้อยู่ 2 – 3 วัน ในบางรายอาจมีอาการแพ้หรือกระวนกระวาย อาเจียน หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ มึนงง ปวดศีรษะ
ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า การรักษาพิษของตะขาบ โดยทำความสะอาดแผลด้วยน้ำสะอาดหรือสบู่อ่อนๆ ใช้ผ้าพันแผลพันไว้และประคบเย็น ให้ยาแก้ปวด ถ้าปวดมากอาจใช้ยาชาเฉพาะที่ เช่น Xylocane ฉีดเข้าตรงบริเวณที่ถูกกัด ให้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อโรคถ้ามีการติดเชื้อแทรกซ้อน และสอบถามเรื่องประวัติการฉีดวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก ในรายที่มีอาการรุนแรง เช่น บวมมาก ปวดมาก หรือมีประวัติของการแพ้มากให้รับไว้รักษาในโรงพยาบาลทันที การพยากรณ์โรคโดยทั่วไป ผู้ป่วยจะสามารถหายได้ตามปกติ โดยอาการปวดจะปวดมากในวันแรกๆ แต่จะหายภายใน 3-4 วันเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ เคยมีรายงานการเสียชีวิตจากตะขาบ 1 รายจากประเทศฟิลิปปินส์