พบเพิ่มอีก1 คนขับติดโควิดด่านแม่สอด

พบเพิ่มอีก1 คนขับติดโควิดด่านแม่สอด

สธ.เปิดไทม์ไลน์ชาวเมียนมาติดโควิด-19 ด่านแม่สอด พบเพิ่มอีก1 ราย ระบุตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงเพิ่ม 74 ราย ผลแล็ปออกแล้ว 60 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อ ส่งทีมแพทย์ อุปกรณ์หนุนสาธารณสุขในพื้นที่ ย้ำประชาชนการ์ดอย่าตก สวมใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง

จากกรณีที่มีการตรวจพบพนักงานขับรถขนส่งสินค้าชาวเมียวดี สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (พม่า) ขับรถข้ามฝั่งมาซื้อสินค้าในตลาดแม่สอด .ตาก เมื่อวันที่ 9 ..2563 ติดเชื้อโควิด-19  และเมื่อทางทีมสอบได้ลงพื้นที่ตรวจเชิงลึกในโกดังที่พนักงานขับรถขนส่งสินค้าชาวเมียวดีจัดส่งในวันที่ 10 ..2563 พบผู้ติดเชื้ออีก 1 ราย ซึ่งเป็นชาวเมียนมาเช่นเดียวกัน

ส่งทีมแพทย์ค้นหาเชิงลึก คัดกรองคนในพื้นที่

วันนี้ (11 ..2563) ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) แถลงข่าวความคืบหน้ากรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 บริเวณชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยมีนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค สธ. กล่าวว่ากรณีที่เกิดขึ้นนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ได้ให้มีมาตรการเชิงลึก ทั้งเรื่องการค้นหาเชิงลึก การเฝ้าระวัง การคัดกรองในกลุ่มเสี่ยงต่างๆ และการทำงานประสานร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเข้มข้น

โดยขณะนี้ได้มีการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงตรวจสอบไม่ต่ำกว่า 70 ราย และมีการระดมทีมแพทย์ อุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆลงในพื้นที่ อยากฝากไปยังพี่น้องประชาชนอย่าตื่นตระหนกและหากพบผู้ที่เข้าข่าย มีความเสี่ยงสามารถแจ้งมายังสาธารณสุขจังหวัด หรือโรงพยาบาลแม่สอดได้ อีกทั้งหากประชาชนไม่มั่นใจว่าตัวเองมีความเสี่ยงหรือไม่ ก็สามารถเข้ารับการตรวจเชื้อได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์ดังกล่าวจะคลื่คลายเมื่อใดนั้น ต้องขึ้นอยู่กับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่  ซึ่งสถานการณ์ในครั้งนี้อยู่ในขั้นระบาดและถ้าควบคุมได้เร็วที่สุด ก็จะเทียบเคียงได้กับสถานการณ์ที่ทหารอียิปต์ .ระยอง  นอกจากนั้น อยากฝากสถานประกอบการ อย่านำต่างชาติผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศ เพราะนอกจากผิดกฎหมายบ้านเมืองแล้ว ยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และนำเชื้อเข้ามาสู่ประเทศไทย

เปิดไทม์ไลน์เส้นทางผู้ติดเชื้อเมียนมา 3  ราย

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกอง โรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค สธ. กล่าวว่าสำหรับไทม์ไลน์ของกรณีดังกล่าวนั้น ทางสธ.ได้มีการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด -19 ในฝั่งประเทศเมียนมา พบผู้ติดเชื้อมากขึ้นและบางรายพบในเมียวดี  ซึ่งเป็นพื้นที่ตรงข้ามกับอ.แม่สอด .ตาก หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ ตั้งแต่หน่วยงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลแม่สอด ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงและฝ่ายปกครองดำเนินการตรวจคัดกรองพนักงานขับรถบรรทุกสินค้าระหว่างประเทศ โดยวันที่ 8 ..2563 วันแรกที่มีการคัดกรอง ข้อมูลจากรพ.แม่สอด แจ้งว่าได้ตรวจพนักงานขับรถขนส่งสินค้า55 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด

ต่อมาวันที่ 9 ..2563 ได้มีการตรวจพนักงานขับรถขนส่งสินค้า 60  คน  พบผู้ติดเชื้อเป็นพนักงานขับรถขนส่งสินค้าชาวเมียวดี 2 ราย แต่ไม่มีอาการป่วย  และได้มีการส่งไปรักษาตัวที่รพ.เมียวดี เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเมื่อพบผู้ติดเชื้อ ในวันที่10 .. 2563 ทีมสอบสวน กรมควบคุมโรคได้ลงไปในพื้นที่ที่พนักงานขับรถขนส่งสินค้า ทั้ง 2 รายได้เข้าไปขนส่งสินค้าในพื้นที่โกดัง 2 แห่ง คือ  โกดังอารีย์ และโกดังสิงห์รุ่งเรือง มีการเก็บตัวอย่างจากแรงงานที่อยู่ในโกดังทั้ง 2 แห่งไปตรวจเพิ่มเติม 74 ตัวอย่าง  พบว่ามี 1 รายที่ผลบวก ซึ่งเป็นพนักงานชาวเมียนมาเช่นเดียวกัน ดังนั้น โดยสรุปมีพนักงานขับรถชาวเมียนมา 3 ราย ที่ติดเชื้อโควิด-19 จากการตรวจค้นหาเชิงลึก และทั้ง 3 รายได้รับการส่งตัวไปรพ.เมียวดีเรียบร้อยแล้ว

160240628820

ตรวจกลุ่มเสี่ยง 74 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อ 60 ราย

"ทางทีมสอบสวนได้มีการให้คำแนะนำแก่คนในพื้นที่ทั้งการดูแล ป้องกันตนเอง  ไม่ว่าจะเป็น การสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อต่อไป โดยในส่วนของฝั่งเมียนมา ที่มีผู้สัมผัสพนักงานขับรถทั้ง 2 ราย ได้นำเข้าสู่การกักตัว 14 วัน ส่วนการดำเนินงานเพิ่มเติมของสธ.นั้น ได้มีการสนับสนุนการดำเนินงานคัดกรอง และสอบสวนโรคในพื้นที่ มีรถชีวนิรภัยพระราชทานเก็บตัวอย่างจำนวน 3 คัน ไปร่วมสนับสนุนการดำเนินงานในพื้นที่  มีการสนับสนุนชุดตรวจ PCR  1,000 ชุด ชุดตรวจเลือด 2,000 ชุด และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่ามีการดูแล ป้องกันการแพร่เชื้อที่มีประสิทธิภาพ ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเนื่อง"นพ.โสภณ กล่าว

สำหรับเรื่องของผู้สัมผัส เฉพาะกลุ่มที่มี ขณะนี้ที่มีการเก็บตัวอย่าง 74 ราย พบว่าผลแล็ปออกแล้ว 60 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อ ส่วนจำนวนคนที่อยู่ในส่วนของการดูแลอย่างใกล้ชิด จำนวนที่แน่นอนยังไม่ทราบ อย่างไรก็ตาม สำหรับพฤติกรรมสุขภาพของผู้ติดเชื้อทั้ง3 ราย ซึ่งเป็นพนักงานขับรถขนส่งสินค้าชาวเมียนมา ในประเทศของเขามีการติดเชื้ออยู่แล้ว ซึ่งการจะเข้ามาในประเทศไทยต้องมีการสวมหน้ากากอนามัยการดูแลป้องกันการแพร่เชื้อ จะเข้ามาอยู่ในประเทศไทยไม่เกิน 7 ชั่วโมง ซึ่งทั้ง 2  รายกลับออกไปในเวลาที่กำหนด และขณะนั้นยังไม่มีอาการ คาดว่าการแพร่เชื้อยังไม่มาก

แจงพนักงานขับรถอย่างเดียว คาดไม่แพร่เชื้อไปที่อื่น

นายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าสธ.ได้เข้าไปเตรียมพร้อมโรงพยาบาล สาธารณสุขจังหวัด รวมถึงด้านเวชภัณฑ์และห้องปฎิบัติการต่างๆ มาตลอดระยะเวลา  2เดือน โดยห้องปฎิบัติการต่างๆ สามารถรับเคสผู้ป่วยได้ 20-30 คนมีการจัดตั้งศูนย์ปฎิบัติการพิเศษ  ดังนั้น  กรณีที่เกิดขึ้น กรมควบคุมโรคได้เข้าไปดำเนินการไม่เกิน 24 ชั่วโมง  และขณะนี้มีการตรวจสอบค้นหาเชิงลึก รวมถึงมีทาง อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครต่างด้าว (อสต.) ในการทำหน้าที่สื่อสารกับแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน และแรงงานในพื้นที่ในการเฝ้าระวัง แลกเปลี่ยน สื่อสารถึงแนวทางปฎิบัติของสธ.ต่างๆ ซึ่งอสม. และอสต.ได้มีการอบรมและฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจแก่พี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ จากกรณีที่เกิดขึ้นนั้น ข้อมูลจากในพื้นที่ พบว่าพนักงานขับรถชาวเมียวดี เมียนมาทั้ง 2 ราย เข้ามาในประเทศและทำหน้าที่ขับรถจริงๆ อาจมีบ้างที่ลงไปเข้าห้องน้ำ แต่ทั้งนี้ การเข้าพื้นที่อื่นๆ ต้องปฎิบัติตามมาตรการของสธ.อย่างเคร่งครัด ส่วนคนที่ติดตามมากับรถ พยายามป้องกันไม่ให้มีการสัมผัสระหว่างคนไทย และคนเมียนมาร์อยู่แล้วอย่างไรก็ตาม ในวันที่ 12 ..นี้ ตนพร้อมด้วยปลัดสธ. จะลงไปในพื้นที่ดังกล่าว

"อยากฝากพี่น้องประชาชนทุกคนการ์ดอย่าตก เพราะหลายคนใส่หน้ากากอนามัยแต่ตกไปอยู่ที่คาง ซึ่งไม่สามารถป้องกันโรคได้ คนไทยในพื้นที่ชายแดน ขอให้สวมใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ กินร้อนช้อนตัวเอง และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล  โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ประเพณีกฐิน และลอยกระทง มีฉลองและเล่นต่างๆ สามารถทำได้ แต่ในพื้นที่เสี่ยงขอให้ปฎิบัติตามมาตรการของสธ. อย่างเคร่งครัด รวมถึงการรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ ขอให้ติดตามข้อมูลจากสาธารณสุขจังหวัด หรือสธ.เป็นหลัก เข้าใจว่าหลายคนตระหนักและตระหนก  แต่การรับข้อมูลหลากหลายทำให้ความตระหนกกลายเป็นความสับสน และทำให้หน่วยงานราชการทำงานยากมากขึ้น ขอให้ติดตามข้อมูลจากข้อเท็จจริง"นายธนิตพล กล่าว

ย้ำประชาชนการ์ดอย่าตก ทุกภาคส่วนต้องช่วยกั

นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค สธ. กล่าวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เกินความคาดหมาย  เพราะสิ่งที่สธ.พยายามบอกประชาชนมาตลอด คือมีโอกาสพบผู้ป่วยในประเทสได้อีก สิ่งสำคัญ ไม่ใช่พยายามป้องกันไม่ให้มีผู้ป่วยในประเทศ เนื่องจากเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ต้องป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดในประเทศ  การพบผู้ป่วย 3 รายที่เดินทางเข้าออกชายแดนนั้น ต้องป้องกันไม่ให้มีการติดเชื้อในคนไทย ฉะนั้น การทำงานในเรื่องนี้ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน สธ.จะทำเต็มที่ในเรื่องการคัดกรอง การค้นหาผู้ป่วยเชิงลึก การกำหนดการป้องกัน เฝ้าระวังให้รอบคอบ ส่วนคนในพื้นที่ ต้องไม่ตระหนก รับรู้และเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้ รู้ว่าต้องปฎิบัติตัวอย่างไร  ทุกคนจะผ่านเหตุการณ์นี้ด้วยความเข้าใจ  การจัดการภาวะฉุกเฉิน เรื่องโควิด-19 เป็นเรื่องที่ใหญ่ อยากให้ประชาชนเข้าใจ และให้ความร่วมกับภาครัฐ