ทุกพรรคเห็นพ้องเปิดสภาฝ่าวิกฤติ'ชวน' ส่งหนังสือถึงนายกฯ
“ชวน” ร่อนหนังสือถึง “นายก” หลังทุกพรรคเห็นพ้องเปิดประชุมสภาฯสมัยวิสามัญ คลี่คลายสถานการณ์
ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้เรียกตัวแทนพรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และตัวแทนของคณะรัฐมนตรี(ครม.) อาทิ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายวิรัช รัตนเศรษฐส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปฝ่ายรัฐบาล นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคามพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายพิจารณ์ เชาวพัฒนพงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นต้น เพื่อหารือถึงการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเป็นการเร่งด่วน ก่อนการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญปกติ เพื่อให้รัฐสภาหาทางออกให้กับบ้านเมืองจากสถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้น
จากนั้นเวลา 11.30 น. นายชวน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือร่วมกันของพรรคการเมืองต่างๆ ว่า ส่วนใหญ่ยืนยันต้องการให้เปิดการประชุมสมัยวิสามัญ ซึ่งตนจะรีบทำหนังสือไปยังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แจ้งให้ทราบว่าทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลอยากให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญ
เมื่อถามถึงกระแสข่าวได้มีการโทรศัพท์ไปพูดคุยกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการเปิดประชุมสภาฯ นายชวน ยอมรับว่าได้พูดคุยกันตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว
ต่อมาเวลา 11.35 น. นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล และนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายวิรัช แถลงว่า ทุกฝ่ายเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ขัดข้องที่จะให้มีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นในการแก้ไขปัญหาของประเทศ แต่ติดอยู่ตรงที่ว่าจะต้องทำเรื่องทูลเกล้าฯเพื่อขอเปิดประชุม อย่างไรก็ตาม นับจากวันนี้ไปถึงวันที่จะมีการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญที่สอง เหลือเวลาอีก11 วัน แต่ในที่ประชุมเห็นว่าการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญจะช้าหรือเร็ว 1 หรือ 2 วันก็มีค่าทั้งนั้น เพราะถือเป็นการแก้ไขสถานการณ์บ้านเมือง
นายวิรัช กล่าวอีกว่า สำหรับการเปิดประชุมร่วมรัฐสภาเพื่ออภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา165 ที่ให้นายกรัฐมนตรีขอไปยังประธานรัฐสภานั้น นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่าต้องมีเหตุและผลในการเสนอ และจะต้องเสนอวันปิดด้วย เพราะเพิ่งมีคำประกาศพระราชกฤษฎีกาเปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญออกมาวันที่ 9 ต.ค. และประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 1 พ.ย. ดังนั้น หากจะเสนอไปเกรงว่าจะเป็นการซ้ำซ้อน ดังนั้น ที่ประชุมจึงมอบหมายให้เลขาธิการสภาฯไปพิจารณาเรื่องนี้
เมื่อถามว่าหากการเปิดประชุมสมัยวิสามัญแล้วไม่มีอะไรเป็นรูปธรรมจะช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายได้จริงหรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า หากจะให้มีการเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้อง ทางคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ก่อนรับหลักการ ก็ต้องเร่งสรุปรายงานเพื่อเสนอต่อสภาภายในวันที่ 22 ต.ค.ซึ่งกมธ.พิจารณา6 ร่างของส.ส.แล้ว ส่วนร่างที่7 ของไอลอว์เราก็จะพยายามเร่งเพื่อให้นำมาพิจารณารวมกันคราวเดียว จึงขอฝากไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมว่าเราจะพยายามอย่างเต็มที่
ด้านนายสุทิน กล่าวเสริมว่า ที่ประชุมได้หารือว่าเมื่อเปิดแล้วจะอภิปรายเรื่องใดบ้าง ก็ได้ข้อสรุปว่าจะต้องมีการพูดเรื่องการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่หลายคนเสนอให้ยกเลิก รวมทั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องเวลา เพราะเราต้องการจะทำพร้อมกับร่างของไอลอว์ ซึ่งจะได้บรรจุวันที่22 พ.ย. ส่วน6 ร่างของส.ส.ที่เสนอไปแล้วคณะกรรมาธิการฯได้ขอขยายเวลาในการศึกษาซึ่งอาจจะไม่ทันอย่างไรก็ตาม ทางใดที่จะสามารถเร่งเวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญในช่วงเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญได้ก็อยากจะให้ทำ
“เราอยากให้การเปิดวิสามัญครั้งนี้เน้นการพูดจาสาระล้วนๆ เพราะไม่อยากให้สังคมกังวลว่าเปิดแล้วก็มาทะเลาะด่ากัน แต่เปิดเพื่อแก้ปัญหาจริงๆ หาทางตอบสนองต่อประชาชนผู้ชุมนุมได้ก็ต้องทำ” นายสุทิน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าฝ่ายค้านเห็นด้วยกับข้อเสนอที่จะให้ส.ว.มาร่วมอภิปรายต่อปัญหาต่างๆหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ความจริงแล้วในที่ประชุมทุกคนก็อยากจะให้มีการเปิดประชุมรัฐสภา เพื่อให้ส.ว.มาร่วมด้วย เว้นแต่หากทำไม่ได้จริงก็เปิดประชุมเฉพาะส.ส.เท่านั้น ซึ่งหากประธานสภาสามารถส่งหนังสือไปถึงคณะรัฐมนตรีได้ภายในวันนี้ (19 ต.ค.) ก็สามารถนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมครม.วันพรุ่งนี้(20 ต.ค.) ได้เลย หากมีมติว่าจะเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญก็เชื่อว่าทำได้ ซึ่งก็อยู่ที่ขั้นตอนของการทูลเกล้าฯ
ถามต่อว่าหลายคนมองว่าการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญไม่ได้จริงใจในการเปิดประชุม เป็นเพียงการลดทอนสถานการณ์การชุมนุมเท่านั้น นายสุทินกล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้เราไปแสดงความไม่จริงใจไม่ได้ เราจะไปเล่นเกมอะไรกันไม่ได้อีกแล้ว เรายืนยันว่าต้องแสดงความจริงใจและตรงไปตรงมา