‘ในหลวง-พระราชินี’ พระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ปชช.ประสบเหตุ 'น้ำท่วม โคราช'
"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ "องคมนตรี" เชิญ "ถุงพระราชทาน" เครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบแก่ "ราษฎร" ที่ประสบ "เหตุอุทกภัย" ในพื้นที่จังหวัด "นครราชสีมา" ณ หอประชุมสถานีตำรวจภูธรอำเภอปักธงชัย จ.นครราชสีมา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทาน เครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ผู้ประสบเหตุอุทกภัยและผู้ได้รับผลกระทบ
วันนี้ (19 ต.ค.63) เวลา 14.07 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 1,380 ถุง ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบเหตุอุทกภัยและผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่อำเภอปักธงชัย ณ หอประชุม ชั้น 3 สถานีตำรวจภูธรอำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นและเป็นขวัญกำลังใจ
ในโอกาสนี้ องคมนตรี เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวให้ราษฎรที่ประสบเหตุอุทกภัย กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ และเจ้าหน้าที่ให้ทราบ ในการนี้ องคมนตรี ได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวราษฎรที่ประสบเหตุอุทกภัย และผู้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่อำเภอปักธงชัย จำนวน 10 ครอบครัว เป็นพื้นที่ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน พร้อมกับพูดคุยสร้างขวัญกำลังใจเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้ตามปรกติสุข ต่อไป ราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
จังหวัดนครราชสีมา แบ่งการปกครองออกเป็น 32 อำเภอ 289 ตำบล 3,743 หมู่บ้าน ได้รับอิทธิพลจากหย่อมความกดอากาศต่ำแพร่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เมื่อวันที่ 15-18 ตุลาคม 2563 ทำให้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันเป็นวงกว้างในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ประกอบกับสภาพภูมิประเทศเป็นที่ลาดเชิงเขาและป่าไม้ และการระบายน้ำออกท้ายเขื่อนของเขื่อนลำพระเพลิง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่อำเภอต่าง ๆ ทำให้บ้านเรือนราษฎร ทรัพย์สิน ถนน สะพาน ฝายเก็บน้ำ และพื้นที่ทางการเกษตรในพื้นที่ 9 อำเภอ 14 ตำบล 81 หมู่บ้าน ได้รับความเสียหาย ราษฎรได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบ 1,380 ครัวเรือน โดยหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน มูลนิธิ องค์กร และจิตอาสาพระราชทาน ได้ระดมให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ต่อไป