"สิงห์ศึก" แนะทำประชามติถามคนไทย ให้ "นายกฯ" ลาออกหรือไม่
รองประธานวุฒิสภา ตอบคำถามกรณี ข้อเรียกร้องม็อบคณะราษฎร ยื่นคำขาดให้นายกฯลาออก บอกมีความเห็นหลากหลาย เสนอทำประชามติถามคนไทยดีกว่า
พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงการณ์ถึงจุดยืนกับการชุมนุมทางการเมือง เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา นายกฯแสดงความจริงใจต่อการแก้ไขปัญหา ต้องยอมรับว่าการแก้ไขปัญหานั้นไม่สามารถดำเนินการตามข้อเรียกร้องของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ทั้งหมด ส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่งนายกฯภายใน 3 วันนั้น ตนไม่ทราบว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ เนื่องจากกลไกของการบริหารประเทศต้องยึดตามกฎหมาย และพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯที่มาตามกลไกของรัฐธรรมนูญ หากเป็นข้อเรียกร้องอื่นอาจทำได้ แต่ประเด็นนี้ไม่ทราบจะเป็นไปได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามตนมองถึงปัญหาความเห็นของประชาชนที่เห็นต่างเป็น 2 ฝ่าย ทางออกที่ดี คือ การทำประชามติเพื่อให้เสียงประชาชนตัดสิน เช่น กรณีการออกจากตำแหน่งนายกฯ หรือประเด็นแก้รัฐธรรมนูญ
“ผมมองว่าทางออกเรื่องทำประชามตินั้น อาจคลี่คลายสถานการณ์ได้ หากผลประชามตินั้นถูกยอมรับ ทั้งนี้การทำประชามตินั้นคือการตัดสินใจของคนไทยทั้งประเทศ ตามระบอบประชาธิปไตย เมื่อคนส่วนใหญ่เห็นอย่างไร เสียงส่วนน้อยต้องยอมรับ ไม่เช่นนั้นจะไม่เรียกว่าประชาธิปไตย” พล.อ.สิงห์ศึก กล่าว
พล.อ.สิงห์ศึก กล่าวถึงการเปิดประชุมรัฐสภา สมัยวิสามัญ วันที่ 26 - 27 ตุลาคม ที่รัฐบาลขอปรึกษาหารือเรื่องการชุมนุมทางการเมือง ว่า ตนไม่ทราบว่าจะนำข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม ทั้ง 3 ข้อ คือ นายกฯ ลาออก, แก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมีส.ส.ร.มาจากประชาชนและปฏิรูปสถาบัน หารือได้หรือไม่ แต่โดยหลักการคือ หารือเรื่องที่รัฐบาลนำเสนอ อย่างไรก็ตามการพูดคุยในประเด็นที่อ่อนไหว เช่น สถาบันพระมหากษัตริย์นั้น ตนไม่กังวลหรือเป็นห่วงว่าจะมีการอภิปรายเกินเลย เนื่องจากตามข้อบังคับการประชุมร่วมรัฐสภา นั้นมีข้อกำหนดรายละเอียดไว้ และเชื่อว่าประธานในที่ประชุมจะควบคุมให้การประชุมเรียบร้อย โดยไม่ถึงขั้นขอให้การประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมแบบลับ
“ผมขอให้ประชาชนติดตามฟังการอภิปรายวันที่ 26 - 27 ตุลาคมนี้ แล้วพิจารณาในเนื้อหาสาระและนำไปตัดสินใจ อย่างไรก็ตามการอภิปรายในที่ประชุมนั้นผมไม่กังวล แต่จะห่วงเรื่องเดียวคือ การนำสาระที่อภิปรายนั้นไปบิดเบือน” พล.อ.สิงห์ศึก กล่าว
เมื่อถามถึงการปฏิรูปสถาบันที่ประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ มีโอกาสจะยกหารือ พล.อ.สิงห์ศึก กล่าวว่า ประเทศไทยมีสถาบันพระมหากษัตริย์มานาน กว่า 800 ปี ดังนั้นจะใช้เวลา เพียง 1-2 วันเพื่อพูดคุยคงไม่ได้