สช.ย้ำไม่ทิ้งเรื่องรร.สารสาสน์ฯ คาดสรุปผลสัปดาห์นี้
เลขาธิการ กช. เผยคกก.สืบข้อเท็จจริงโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์สรุปผลอบสวนสัปดาห์นี้
พร้อมย้ำสช.ไม่ทิ้งเรื่องนี้แน่นอน ขณะที่การประชุมกช. เตรียมปลดล็อกแก้ไขกฎระเบียบ เอื้อประโยชน์ต่อผู้เรียน
จากการประชุมคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (กช.) ที่มีนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน นั้น
วันนี้ ( 26 ต.ค.2563)นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยภายหลังว่าได้รายงานการแก้ปัญหาโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทุบรี ซึ่งขณะนี้โรงเรียนได้ทำตามบันทึกข้อตกลงกับสช.ทุกข้อแล้ว ซึ่งบางข้อต้องใช้เวลาและอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไข โดยสช.จะไม่ทิ้งเรื่องนี้อย่างแน่นอนซึ่งคณะทำงานติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนผลสรุปของคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะได้ข้อสรุปและรายงานให้ รมช.ศธ.รับทราบต่อไป
นอกจากนั้น ที่ประชุมได้หารือถึงนโยบายของนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการศึกษายกกำลังสอง โดยในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) พร้อมสนับสนุนนโยบายดังกล่าวอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นการปลดล็อก ปรับเปลี่ยน และเปิดกว้าง ซึ่งการศึกษายกกำลังสองสช.จะเน้นการปลดล็อกด้วยการปรับแก้ไขกฎระเบียบต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้โรงเรียนเอกชนได้ประโยชน์และคำนึงถึงผู้เรียนเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้มีคำสั่งแจ้งโรงเรียนเอกชนให้ส่งข้อมูลนักเรียนที่จะต้องได้รับเงินรายหัว ซึ่งขณะนี้พบมีโรงเรียนเอกชนจำนวนหนึ่งยังไม่ยอมส่งข้อมูล ดังนั้นภายในวันที่ 31 ต.ค.โรงเรียนจะต้องส่งข้อมูลมาที่สช.ให้ครบตามวันดังกล่าว หากไม่ดำเนินการสช.จะงดจ่ายเงินอุดหนุนรายหัวนักเรียน และให้งดรับนักเรียนในปีการศึกษาถัดไป เพราะได้มีการทวงเตือนมาหลายรอบแล้ว
รวมถึงโรงเรียนเอกชนนอกระบบจำนวน 10,000 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้มีโรงเรียนเอกชนนอกระบบที่รอเลิกกิจการจำนวน 2,421 แห่ง และสช.กำลังเร่งติดตามเพื่อเคลียร์ข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน โดยเรื่องนี้ที่ประชุมขอให้สช.หามาตรการจัดการโรงเรียนเอกชนนอกระบบที่เปิดสอนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสช. เนื่องจากการเปิดสอนโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษจำคุกและเป็นความผิดทางอาญา ขณะเดียวกันที่ประชุมมีมติให้แจ้งโรงเรียนเอกชน 121 แห่งให้ส่งเงินเข้ากองทุนสงเคราะด้วย เพราะโรงเรียนไม่สามารถทำเรื่องเบิกเงินได้
สำหรับความคืบหน้าการดำเนินคดีกับอดีตพี่เลี้ยงและอดีคครูโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ที่กระทำความรุนแรงต่อเด็กนั้น มีผู้ปกครอง มาแจ้งความทั้งหมด 36 ราย มีผู้ต้องหาในคดีนี้ทั้งหมด 16 คน เข้ารับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินคดีแล้ว 16 คนแล้ว พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเดิมคือทําร้ายร่างกายและข้อหาตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กโดยครูจุ๋มถูกกล่าวโทษมากสุด 12 คดี ส่วนคนอื่นรองลงมาเป็น 6 คดีบ้าง 5 คดีบ้าง
ขณะที่ทางโรงเรียนได้มีการปฎิบัติตามข้อตกลงของสช. อาทิ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้บริหาร ในการถอดถอนและแต่งตั้งผู้อำนวยการโรงเรียนคนใหม่ แต่งตั้งรองผู้อำนวยการ เพื่อให้การดูแลเป็นไปอย่างทั่วถึง โดยเป็นอำนาจของผู้รับใบอนุญาตในการแต่งตั้งผู้อำนวยการ และรองผู้อำนวยการ นอกจากนั้น เรื่องของความปลอดภัยทางกายภาพ โรงเรียนติดตั้งกล้องวงจรปิด โรงเรียนปรับปรุงพื้นทางเดิน เป็นต้น