'ราเมศ' เดือด ฉะ 'เสรีพิสุทธิ์' ใส่ร้าย "ชวน" ขี้ข้าเผด็จการ

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ในฐานะเลขานุการประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวชหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวหานายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ในลักษณะว่าหมดศรัทธานายชวนทำให้คนดีในพรรคประชาธิปัตย์ ลาออกหมดนั้นว่า เป็นการกล่าวหาที่ร้ายแรง นายชวนทำหน้าที่ประธานรัฐสภาตรงไปตรงมาวินิจฉัยให้พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ถอนคำพูด หลักการคือประธานมีอำนาจในการวินิจฉัย เมื่อมีการใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม เมื่อวินิจฉัยให้นายเสรีพิสุทธิ์ถอนคำพูด เมื่อไม่ถอนก็เป็นไปตามข้อบังคับ แต่ไม่ควรที่จะแถลงข่าวต่อด้วยถ้อยคำที่กล่าวหาโจมตีประธานรัฐสภาให้เกิดความเสียหาย

นายราเมศ กล่าวต่อว่า นายชวนยึดหลักการ ยึดข้อบังคับ ถึงแม้จะเป็นเพียงความคิดของพล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ แต่อยากจะบอกว่าการที่ประชาชนเกิดความศรัทธานายชวนนั้น มาจากการทำหน้าที่ด้วยความตรงไปตรงมา ความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่มีใครเชื่อหรือคิดตามคำพูดของพล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ ส่วนคนที่ลาออกไปจากพรรค ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นเพราะนายชวน แต่เพราะคนที่ลาออกไปนั้นเพราะตัดสินใจในทางการเมืองเอง ซึ่งพรรคก็เคารพในการตัดสินใจ

นายราเมศ กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีการกล่าวว่าขอให้ประชาชนตัดสินระหว่างประธานสภาฯ กับพล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ ใครทำประโยชน์ให้กับประเทศมากกว่ากัน และบอกว่าเงินซื้อคนอย่างตนไม่ได้ เพราะตนไม่ใช่ขี้ข้าเผด็จการนั้น ก็เป็นการใช้คำพูดที่ไม่น่าเชื่อว่าออกมาจากปากของอดีต ผบ.ตร.ที่ควรมีหลักการในการพูด เรื่องใครทำประโยชน์ให้กับประชาชนมากกว่ากันนั้น คงไม่ต้องถามประชาชนเพราะประชาชนทั้งประเทศรู้ดีว่าใครเป็นอย่างไร เหมือนบอกให้คนเชื่อว่าขี้ไก่มีราคามากกว่าเพชร ไม่ต้องมีภาพประกอบประชาชนก็รู้ว่าเป็นอย่างไร

นายราเมศ กล่าวด้วยว่า ส่วนการกล่าวหาในลักษณะว่านายชวนเป็นขี้ข้าเผด็จการนั้นต้องถามกลับว่า ถ้าการยึดมั่นในระบบรัฐสภาเป็น ส.ส.ที่มาจากประชาชน 16 สมัย กับการเป็นนายกรัฐมนตรี 2 สมัย ที่มาจากการเลือกตั้งกับการเป็นผู้นำฝ่ายค้าน 3 สมัย เป็นประธานสภา 2 สมัย เป็นรัฐมนตรีมาหลายกระทรวง ไม่มีตำแหน่งใดที่มาจากการแต่งตั้งของเผด็จการ และได้ทำงานรับใช้ประชาชนและประเทศมาโดยตลอด เป็นได้ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ไม่จำเป็นว่าต้องมีตำแหน่งจากฝ่ายไหน เพราะหากเป็นนักการเมืองที่ดีสามารถทำหน้าที่ทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้หมด

"นายชวนไม่ได้เป็นขี้ข้าเผด็จการเหมือนที่พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์พูด แต่เป็นผู้ที่อุทิศตนทำงานให้กับประชาชนและประเทศด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ดังนั้นเหตุที่มีความจำเป็นต้องออกมาชี้แจงเมื่อนายเสรีพิสุทธิ์พูดถึงนายชวนแล้วก่อให้เกิดความเสียหาย ในฐานะที่ตนเป็นเลขานุการประธานรัฐสภา ก็มีความจำเป็นที่จะต้องบอกพี่น้องประชาชนถึงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้"นายราเมศ กล่าว