ส่องนโยบายขายฝัน 'ทรัมป์' vs 'ไบเดน' ก่อนเลือกตั้งสหรัฐ
ทั่วโลกจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในวันนี้ เพื่อชี้ชะตาว่า ชาวอเมริกันจะเลือกโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย หรือจะเลือกโจ ไบเดน คู่ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต ให้ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งแทน
ระหว่างการหาเสียงที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดนั้น ผู้สมัครจากทั้ง 2 พรรคได้ชูนโยบายต่างๆ เพื่อเรียกเสียงศรัทธาจากบรรดาผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง โดยมีสาระสำคัญดังนี้
ทรัมป์ วัย 74 ปี ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐ และลงสมัครชิงตำแหน่งครั้งที่สองในนามพรรครีพับลิกัน ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2559 ทรัมป์ชูประเด็น "America First" เป็นนโยบายหลักในการหาเสียง ทำให้ทรัมป์ซึ่งเป็นนักธุรกิจและผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ชื่อดัง สามารถเอาชนะ ฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตและอดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ
จนกระทั่งถึงการหาเสียงเลือกตั้งในปีนี้ ทรัมป์ชูแคมเปญ "Keep America Great" โดยมุ่งเน้นนโบายการจ้างงาน ขจัดการระบาดของไวรัสโควิด-19 สนับสนุนระบบสาธารณสุข ส่งเสริมการศึกษา นโยบายผู้อพยพ การพัฒนานวัตกรรม และนโยบายต่างประเทศ
ทรัมป์ยังลั่นวาจาว่า หากเขาได้รับเลือกให้ทำหน้าที่ประธานาธิบดีอีกครั้ง เขาจะสร้างงานใหม่จำนวน 10 ล้านตำแหน่งภายในเวลา 10 เดือน และพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ภายในสิ้นปีนี้ อีกทั้งจะสร้างสถานีอวกาศบนดวงจันทร์โดยมีมนุษย์ควบคุม รวมถึงส่งมนุษย์ไปยังดาวอังคารเป็นครั้งแรก
ไบเดน วัย 77 ปี รองประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 (2552-2560 ในคณะบริหารของบารัก โอบามา)
ไบเดนดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกแห่งรัฐเดลาแวร์เป็นเวลานานถึง 36 ปี และการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปีนี้นับเป็นครั้งที่ 3
เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ไบเดนได้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าในรัฐบ้านเกิดของตนเอง และได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังจากนั้นว่า เขาสามารถทำงานร่วมกับพรรครีพับลิกันในการปรับปรุงกฎหมาย Affordable Care Act เพื่อให้ชาวอเมริกันมีการดูแลสุขภาพที่ดีขึ้น
ส่วนในประเด็นการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น ไบเดนให้คำมั่นว่า หากเขาชนะการเลือกตั้ง เขาจะจัดหาวัคซีนต้านโควิด-19 ฟรีให้กับชาวอเมริกันทุกคน และได้เปิดเผยแผนการในเรื่องดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการปรึกษาหารือกับบรรดาผู้ว่าการรัฐทั้ง 50 แห่งในช่วงเวลาการเปลี่ยนผ่านตำแหน่งประธานาธิบดี การออกคำสั่งให้ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยในอาคารรัฐบาลทุกแห่ง และในระบบขนส่งมวลชนข้ามรัฐทั้งหมด รวมถึงเพิ่มการตรวจหาเชื้อรายวันเป็น 7 เท่าจากระดับปัจจุบัน
ไบเดนได้เน้นย้ำถึงนโยบาย "Scranton vs. Park Avenue" ซึ่งเป็นโยบายเรียกคะแนนเสียงจากชนชั้นแรงงาน โดยเมืองสแครนตันเป็นบ้านเกิดของไบเดน ขณะที่ทรัมป์ใช้ชีวิตอยู่ที่ปาร์ค เอเวนิวในแมนฮัตตัน นิวยอร์กซิตี้
"นี่เป็นโอกาสของเราที่จะฟื้นฟูทุกอย่างให้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน" เว็บไซต์หาเสียงของไบเดนระบุ ซึ่งเป็นเสมือนคำมั่นสัญญาว่า จะทำให้ชาวอเมริกันทุกคนมีศักดิ์ศรี อีกทั้งสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และส่งเสริมชนชั้นกลาง