ZENจ่อทุ่ม100ล้าน ซื้อธุรกิจอาหาร
ZEN เผย อยู่ระหว่างเจรจาซื้อธุรกิจอาหาร หลังโควิดระบาดทำให้หลายบริษัทขาดสภาพคล่อง แห่ขายกิจการ คาดปิดดีลไตรมาสแรกปีหน้า อย่างน้อย 1-2 ดีล มูลค่าลงทุนดีลละ 100 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีหน้าแตะ 3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% จากปีนี้
นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)ZEN เปิดเผยว่า จากผลกระทบของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจอาหารมีกระแสเงินสดน้อยลง หรือติดลบ
ดังนั้นเริ่มเห็นธุรกิจอาหาร ทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง เข้ามาหารือเพื่อขายกิจการให้กับกลุ่มเซ็นค่อนข้างมาก ตั้งแต่ล็อกดาวน์เป็นต้นมา ซึ่งสวนทางกับบริษัทที่ยังมีกระแสเงินเข้ามาหลัก200-300ต่อเดือน
สำหรับการเข้าไปซื้อกิจการ หรือควบรวมกิจการในขณะนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่บริษัทจะสามารถขยายธุรกิจอาหาร ไปในธุรกิจที่บริษัทไม่เคยมี เพื่อต่อยอดรายได้และการเติบโตของบริษัทให้เพิ่มขึ้น
ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการ (M&A) หลายดีล ที่เกี่ยวกับผลิตวัตถุดิบอาหาร ที่จะใช้กับแบรนด์ไทย ซึ่งคาดว่าจะชัดเจนในไตรมาสแรกปีหน้าอย่างน้อย1-2ดีล ผ่านการเข้าไปถือหุ้นเกิน50% โดยคาดจะใช้งบลงทุนต่อดีลราว 100ล้านบาท
ทั้งนี้แนวโน้มผลการดำเนินงานปี2564 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 40% หรืออยู่ที่ 3,000 ล้านบาท และเห็นอัตรากำไรสุทธิ (เน็ตมาร์จิน)กลับมาบวกระดับ4-5% ได้หลังบริษัทขยายธุรกิจอาหารต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเปิดสาขา และแฟรนไชส์ประมาณ 70-100 สาขา ทำให้ยอดสาขารวมมากกว่า 400 สาขา จากปีนี้ที่คาดมีสาขารวม 345 สาขา
รวมไปถึงการขยายช่องทางขายไปสู่ดิลิเวอรี่มากขึ้น ทำให้รายได้จากออนไลน์โตอีก10%จากปีนี้ ทำให้รายได้จากออนไลน์เพิ่มเป็น 300 ล้านบาทในปีหน้า จากปีนี้ที่คาด200ล้านบาท
ส่วนรายได้ปีนี้คาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 2,300-2,500 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปี 2562 เพราะได้รับผลกระทบจากโควิด-19ระบาดทำให้ร้านอาหารของบริษัทที่อยู่ในสร้างสรรพสินค้าต้องปิดให้บริการไปประมาณกว่า 1 เดือน
แต่คาดว่าภาพรวมไตรมาส4ปีนี้ คาดว่าน่าจะเห็นการเติบโตต่อเนื่อง จากคาดการณ์อัตราการเข้าร้านอาหารเพิ่มเป็น 90-100% จากช่วงไตรมาสที่ผ่านมาที่เฉลี่ย 80-85% จากเทศกาลช่วงปลายปี และแคมเปญกระตุ้นของร้านอาหารมากขึ้น
โดยเฉพาะออนไลน์ ที่บริษัทมีการจับมือกับฟู้ดดิลิเวอรี่ และอีมาร์เก็ตเพลสเพื่อให้โปรโมชั่นและขายวอยเซอร์ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งจะหนุนให้ปีนี้บริษัทเห็นจุดคุ้มทุนหรือBreak Evenได้