'สศช.'แถลงจีดีพีไตรมาส 3/63 ขยายตัว 6.5% จากไตรมาสก่อน แต่ติดลบ6.4 % จากปีก่อนปรับประมาณการจีดีพีดีขึ้นเป็น -6%
"สภาพัฒน์"แถลงจีดีพีไตรมาส 3/2563 ขยายตัว6.5 % จากไตรมาสก่อน แต่จีดีพี-6.4% เทียบกับปีก่อนรับผลกระทบจากโควิด-19 ปรับประมาณการทั้งปีดีขึ้นเป็น - 6% จากเดิม -7.5% ชี้เศรษฐกิจค่อยๆฟื้นตัวอย่างช้าๆหลังผ่านจุดต่ำสุดแล้ว
วันนี้ (16พ.ย.) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3/2563 ขยายตัว 6.5% จากไตรมาสก่อน แต่เมื่อเทียบกับปี 2562 ในช่วงเวลาเดียวกันยังติดลบ 6.4%
ทั้งนี้ สศช.เปิดเผยว่าปัจจัยที่มีผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3/2563 มาจากการส่งออกสินค้าที่ดีขึ้นจากไตรมาสที่ 2 จากเดิมที่-17.8% เหลือ-8.2% การบริโภคเอกชน -0.6% การบริหารราชการใช้งบประมาณเพิ่มขึ้น 0.7% การใช้จ่ายเพื่อการบริโภคภาครัฐขยายตัว 3.4% และการลงทุนภาครัฐในไตรมาสที่ 3 ขยายตัวถึง 3.4% เป็นต้น
ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดขยายตัว 5.1% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัวได้ 1%
อย่างไรก็ตาม สศช.ไปด้ปรับประมาณการเศรษฐกิจในปี 2563 อยู่ที่ -6% จากเดิมคาดว่าจะ -7.5% สะท้อนถึงการปรับตัวที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจในประเทศ ส่วนเศรษฐกิจในปี 2564 สศช.คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.5 - 4.5% หรือค่ากลางอยู่ที่ประมาณ 4% ตามทิศทางการฟื้นต้วของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
"การปรับประมาณการเศรษฐกิจในปีนี้ดีขึ้นเหลือ -6% จากเดิม -7.5% สืบเนื่องจากมาจากตัวชี้วัดเศรษฐกิจต่างๆดีขึ้น แต่ตัวเลขนี้อยู่บนสมมุติฐานที่ต้องไม่มีการระบาดของโควิด-19ระลอกที่ 2"นายดนุชากล่าว
อย่างไรก็ตาม สศช.ได้แนะนำแนวทางการบริหารเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี 2563 ถึงปี 2564 เช่น การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ การเร่งรัดการลงทุนของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ การส่งเสริมการลงทุนในประเทศโดยใช้จุดแข็งของประเทศไทย รักษาบรรยากาศการลงทุนในประเทศ เพื่อรักษาความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน การเตรียมความพร้อมรองรับเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้าหากการแพร่ระบาด ยาวนานออกไป รวมถึงเริ่มปรับโครงสร้างผลิตในประเทศ และดูแลเรื่องภัยแล้งที่อาจกระทบกับผลผลิตและกำลังซื้อในภาคเกษตร
ก่อนหน้านี้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยว่าตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 3/2563 ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประกาศอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 16 พ.ย.นี้ ซึ่งจะมีข่าวดีและตนเชื่อว่าถ้าเป็นไปในทิศทางที่ได้เห็นจากดัชนีตัวชี้วัดต่างๆก็จะเห็นว่าเราฟื้นตัวได้ดี และดีกว่าหลายประเทศในอาเซียนด้วย
ขณะที่ในรายงานขององค์กรการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ล่าสุดได้ปรับพยากรณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยดีขึ้นซึ่งเป็นประเทศเดียวที่ได้มุมมองที่ดีขึ้น ส่วนประเทศอื่นๆ IMF ยังไม่ได้ปรับพยากรณ์ดีขึ้น
“ที่ผ่านมานักเศรษฐศาสตร์หลายคนเคยพูดว่าเราจะมีอัตราเติบโตน้อยที่สุดในอาเซียน แต่ผมคิดว่าไม่ใช่ ถึงสิ้นปีเดี๋ยวเรารอดูกัน แต่ตอนนี้พูดได้ว่าความร่วมมือและการแก้ปัญหาอย่างถูกจุด ตรงประเด็นตามกลุ่มทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดี”
