238 ปีศรีสะเกษ 'รมว.คลัง' ภูมิใจจัดยิ่งใหญ่ 3 หมื่นนางรำบวงสรวงบรรพบุรุษ

วันนี้ 19 พฤศจิกายน 2563 ที่บริเวณซุ้มโคปุระ เกาะกลางน้ำห้วยน้ำคำ เทศบาลเมือง อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยรองผู้ว่าฯ หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอทุกอำเภอ พี่น้องประชาชน พ่อค้า คหบดี สาวงามที่แต่งชุดประจำชนเผ่า ทั้ง 4 ชนเผ่าจังหวัดศรีสะเกษ อันได้แก่ ชนเผ่าส่วย เขมร ลาว และเยอ หรือกูย กว่า 3 หมื่นคน จาก 22 อำเภอของจังหวัดศรีสะเกษ

ได้มาทำการร่ายรำ ทั้งด้านหน้า บริเวณรอบ ๆ ซุ้มโคปุระ และบนถนนรอบเกาะกลางน้ำ ระยะทาง 3.75 กิโลเมตร ซึ่งเริ่มจากการอัญเชิญเครื่องเซ่นไหว้ เข้ามาภายในงาน ย้อนอดีตไปเมื่อสมัยโบราณ ที่อัญเชิญเครื่องบูชาเข้ามาสู่พิธีกรรม การบวงสรวงแด่องค์ศิวเทพ เทวา ซึ่งวันนี้ก็ได้อัญเชิญพานบายศรี เข้ามาถวายแด่ดวงพระวิญญานของบรรพบุรุษ

พร้อมกันนี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง , นายสุรชัย รัศมี รองผู้จัดการใหญ่ รักษาการผู้จัดการธนาคาร ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ เดินทางมาร่วมเป็นประธานเปิดงานด้วย

นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จังหวัดศรีสะเกษได้มีตำนานความเป็นมาของการก่อตั้งบ้านเมืองมาแล้วกว่า 238 ปี จากเดิมที่เคยตั้งอยู่บ้านสามขา ก่อนที่จะมาเป็นจังหวัดศรีสะเกษ ประกอบด้วยประชาชนคน 4 เผ่า อันได้แก่ ชนเผ่าส่วย เผ่าเขมร เผ่าลาว และเผ่าเยอ หรือ กูย เพื่อให้เป็นที่จดจำ ระลึกนึกถึงบุญคุณของบรรพบุรุษที่ผ่านมา คณะกรรมการจังหวัดศรีสะเกษร่วมกับ สภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ได้ริเริ่มทำการสืบค้นประวัติศาสตร์จากผู้รู้ จากตำรา จากคำจารึกต่าง ๆ นำมาประกอบกันจนได้ข้อสรุปว่า จังหวัดศรีสะเกษแท้จริงแล้ว ปัจจุบันนี้มีอายุ 238 ปี จึงได้ดำเนิน การจัดงานรำลึก 238 ปีศรีสะเกษขึ้น

จากการร่วมใจของพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษที่มีอยู่ราว 1 ล้าน 4 แสนคน ได้ร่วมกันมาแสดงออกถึงอัตลักษณ์ของตนเอง ถึงอาชีพ ถึงภูมิปัญญา อันเรืองรุ่ง จากสมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยงานกำหนดให้มีการจัดขึ้นนับตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายนไปจนถึงวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้ เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มาเยือนจังหวัดศรีสะเกษได้มาซึมซับอารยธรรมอันเรืองรุ่งของจังหวัดศรีสะเกษจนถึงปัจจุบัน

ด้าน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเปิดงาน ว่า ผมเองก็เป็นคนจังหวัดศรีสะเกษ และวันนี้รู้สึกดีใจ ที่ได้เดินทางมาจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อมาเป็นประธานในการเปิดงานการเฉลิมฉลองรำลึก 238 ปีศรีสะเกษ เมื่อมาพบรูปแบบการจัดงาน ที่จัดได้ยิ่งใหญ่มาก มีพี่น้องประชาชนที่รวมใจกันมา ด้วยความสมัครสมานสามัคคี รักใครกลมเกลียว รู้สึกภาคภูมิใจมากที่ตนเกิดเป็นคนศรีสะเกษด้วย

และในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ย้ำว่าการจัดงานเช่นนี้จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว จะเป็นการนำรายได้ ทั้งจากนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างจังหวัด และนักท่องเที่ยวที่อยู่ภายในจังหวัด ได้ออกมาซื้อหาสินค้าผลิตภัณฑ์ของชุมชนจาก 22 อำเภอที่นำมาจัดแสดง และจำหน่าย สร้างความประทับใจให้คนเข้ามาเพื่อมารู้จักจังหวัดศรีสะเกษ ในมุมมองของคนที่มีความกตัญญูต่อบรรพบุรุษได้เป็นอย่างดี

ตนขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมผลักดัน ให้เกิดงานเช่นนี้ขึ้น และอยากจะสนับสนุนส่งเสริมให้มีงานเช่นนี้ตลอดไปทุก ๆ ปี เพราะเชื่อว่าหลังสถานการณ์โรคโควิดจางหายไป การท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษจะกลับมาครึกครื้น อีกจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งในปีหน้านี้ จังหวัดศรีสะเกษก็จะได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติด้วย