'ทวี ไกรคุปต์' ปฏิเสธทุกข้อหา คดีรุกที่พันไร่
'ทวี ไกรคุปต์' แจงยิบ ซื้อที่ดินกว่า 1,000 ไร่ พร้อมเลื่อนวันให้การตำรวจ
เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(บก.ปทส.) นายทวี ไกรคุปต์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม บิดาของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามความผิดใน 4 ข้อหา กรณีถูกร้องเรียนว่าบุกรุกที่ดินรัฐกว่า 1,000 ไร่ บริเวณ หมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
นายทวี กล่าวว่า วันนี้มาขอเลื่อนวันให้การกับตำรวจ โดยนำเอกสารใบจองเพื่อออกเป็นหนังสือ นส.3 มามอบเป็นหลักฐาน ซึ่งเป็นเอกสารที่ออกไว้เมื่อปี 2516 แต่ตนยังไม่ทราบว่าได้มาอย่างไร เพราะตนทำธุรกิจอยู่ในกรุงเทพฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับที่ดินในสวนผึ้งเลย
กระทั่งเป็น ส.ส.ราชบุรีในปี 2522 ยังไม่มีทรัพย์สินใน จ.ราชบุรี และปีต่อมา มีนายหน้านำที่ดินมาขาย 3 แปลง 90 กว่าไร่ ตนเห็นว่าไม่มีทรัพย์สินที่นี่ทั้งที่เป็น ส.ส.ราชบุรี จึงซื้อไว้
กระทั่ง 3 ปีต่อมา มีนายหน้านำที่ดินอีก 3 แปลง 30 ไร่ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับที่เดิมมาขาย สภาพที่ดินตอนนั้นเตียนโล่งไม่มีสภาพเป็นป่าไม้ก็เลยซื้อไว้ กระทั่งต้นปีนี้ กรมป่าไม้แถลงข่าวว่าตนมีที่ในเขตป่า ตนก็สับสนว่าไม่มีป่าแล้วตั้งนานแล้ว เหตุใดไม่จับกุมดำเนินคดีตั้งนานมาแล้ว
นอกจากนี้นายทวี ยังกล่าวร้องเรียนขอความเป็นธรรมผ่านสื่อว่าเป็นการเลือกปฏิบัติกับผมหรือไม่ จะต้องใช้กฎหมายปฏิบัติโดยเท่าเทียมกัน อยู่บนมาตรฐานความยุติธรรม พร้อมขอให้รีบดำเนินการกับบุคคลที่มีการครอบครองที่ดินในพื้นที่ใกล้ๆ เคียงที่ดินของตน ซึ่งอยู่กันคนละฝั่งโดยต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งนี้หากตนผิดจริงก็จะยินดีคืนให้หลวง แต่ก็ต้องดำเนินคดีให้เหมือนกันทุกราย ซึ่งเชื่อว่าไม่ได้มีเพียงผมแค่คนเดียว
ด้าน พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รอง ผบก.ปทส.กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกนายทวี มารับทราบ 4 ข้อกล่าวหาตามที่ น.ส.ปารีณา ถูกตำรวจป่าไม้ ร้องทุกข์กล่าวโทษไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 และ มาตรา 31 ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน และความผิดตาม พ.ร.บ.น้ำบาดาล พ.ศ. 2520 ร่วมกันประกอบกิจการน้ำบาดาล ในเขตน้ำบาดาลใดๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองที่ดิน ในเขตน้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยนายทวี ได้นำเอกสาร นส.3 มาแสดงต่อพนักงานสอบสวนว่าครอบครองที่ดินประเภทดังกล่าว 200 ไร่ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่ บก.ปทส.ได้สอบสวนเจ้าหน้าที่กรมที่ดินว่านายทวี ครอบครองผืนดินดังกล่าวจริง เมื่อมาหักลบพบว่านายทวี ได้บุกรุกที่ดินประมาณ 800 กว่าไร่
นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนได้นำภาพถ่ายทางอากาศของที่ดินบริเวณดังกล่าวมาให้นายทวี ชี้จุดว่าที่ดินใดเป็นที่ดินที่ตัวเองครอบครองเอกสาร นส.3 โดยระหว่างนี้ บก.ปทส.จะสืบสวนสอบสวนหาเจ้าของที่ดินเดิมว่าเป็นใคร และนายทวี ได้ซื้อที่ดินมาจากใคร เพื่อสอบถามเจ้าของที่ดินเดิมมาประกอบสำนวนว่าตรงกับที่นายทวี นำชี้จุดครอบครองหรือไม่
พ.ต.อ.วัชรินทร์ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า ตำรวจ บก.ปทส.พร้อมเจ้าหน้าที่ศาล ผู้เชี่ยวชาญด้านแปรภาพถ่ายทางอากาศและแผนที่ เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน และกรมป่าไม้ จะลงพื้นที่เกิดเหตุพร้อมนายทวี เพื่อให้เจ้าตัวนำชี้บริเวณที่ครอบครองตามเอกสาร นส.3 หลังจากนี้ พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานและคำให้การของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไปสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องตามกฎหมายต่อไป
ในเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายทวีไว้ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ทั้งนี้นายทวีได้ให้การปฏิเสธในข้อกล่าวหาดังกล่าว