น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก วาตภัย 5 จังหวัด เดือดร้อน 412 ครัวเรือน
รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และวาตภัย 5 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบ 412 ครัวเรือน
วันนี้ 24 พ.ย. 63 เวลา 09.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัย ในพื้นที่ 5 จังหวัด รวม 10 อำเภอ 20 ตำบล 54 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 412 ครัวเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากอิทธิพลความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ประกอบกับลมตะวันออกพัดปกคลุมประเทศไทย และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ส่งผลทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน - ปัจจุบัน (24 พฤศจิกายน 2563 เวลา 06.00 น.)
มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัย 5 จังหวัด ได้แก่ สิงห์บุรี กาญจนบุรี ภูเก็ต สงขลา และยะลา รวม 10 อำเภอ 20 ตำบล 54 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 412 ครัวเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด
แยกเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลาก 4 จังหวัด รวม 7 อำเภอ 11 ตำบล 24 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 258 ครัวเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัด
พื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย 1 จังหวัด ได้แก่ สิงห์บุรี รวม 3 อำเภอ 9 ตำบล 32 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 154 หลัง ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ร่วมกับจังหวัดหน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วได้เร่งสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งการประกอบอาชีพ ชีวิตความเป็นอยู่ ที่อยู่อาศัย พื้นที่การเกษตร ปศุสัตว์ สาธารณูปโภค เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ตลอดจนซ่อมแซมและฟื้นฟูสิ่งสาธารณประโยชน์ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง