เช็คเงินประกันรายได้เกษตร เร่งจ่ายค่าประกันรายได้ยางพารา เฟส 2 ลุ้น ธ.ก.ส. โอนเข้าบัญชี
ตรวจสอบ เช็คเงินประกันรายได้เกษตร โครงการประกันรายได้ยางพารา เฟส 2 เร่งจ่ายเงินชาวสวนยางพร้อมกันเร็วที่สุด ลุ้น ธ.ก.ส. โอนเข้าบัญชี
กระแสความสนใจประชาชน ยังคงติดตาม โครงการประกันรายได้เกษตร (26 พ.ย.) กรณี โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ซึ่งโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางในระยะ 1 ที่ผ่านมา รัฐบาลได้จ่ายเงินให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางแล้วกว่า 1.3 ล้านราย เป็นเงินทั้งสิ้น 2.4 หมื่นล้านบาท
ส่วน โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 2 นั้น นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กยท. และ ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ผลที่ประชุมให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งทำความเข้าใจในระเบียบการจ่ายเงินเกษตรกรชาวสวนยางผู้มีสิทธิ์ตามโครงการฯ ที่ผ่านมติคณะรัฐมนตรี เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางที่มีสิทธิ์ตามโครงการฯ ได้รับเงินโดยเร็วที่สุด
โดยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 เห็นชอบโครงการฯ โดยจะจ่ายเงินประกันรายได้ เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 6 เดือน เริ่มตั้งแต่ เดือนตุลาคม 2563 ถึง เดือนมีนาคม 2564 ภายใต้กรอบงบประมาณทั้งสิ้นกว่า 1 หมื่นล้านบาท
ราคาประกันรายได้ที่โครงการตั้งไว้ คือ ยางแผ่นดิบคุณภาพดี ราคา 60 บาท/กก. น้ำยางสด ราคา 57 บาท/กก. และยางก้อนถ้วย (DRC 50%) ราคา 23 บาท/กก.
การจ่ายเงินงวดแรกประจำเดือนตุลาคม 2563 กำหนดราคายางอ้างอิงย้อนหลัง 60 วัน คือตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน – 23 พฤศจิกายน 63 ราคายางแผ่นดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 62.62 บาท/กก. ราคาน้ำยางสดอยู่ที่ 52.86 บาท/กก. ชดเชย 4.14 บาท/กก. และราคายางก้อนถ้วย (DRC 50%) อยู่ที่ 19.09 บาท/กก. ชดเชย 3.19 บาท/กก.
ในส่วนของเกษตรกรที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการประกันรายได้ ระยะที่ 1 และมีคุณสมบัติครบถ้วน (ขึ้นทะเบียนก่อน 12 สิงหาคม 2562) เมื่อโครงการฯ ระยะที่ 2 เริ่มอนุมัติจ่ายเงินประกันรายได้ จะสามารถจ่ายเงินเข้าบัญชีได้ทันที
ส่วนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเพิ่มเติมตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2562 แต่ไม่เกิน 15 พฤษภาคม 2563 กยท. จะเข้าตรวจสอบข้อมูลพื้นที่ปลูกยางเพิ่มเติมโดยเร็วที่สุด เพื่อส่งข้อมูลการจ่ายเงินส่วนต่างประกันรายได้ตามโครงการฯ ให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อจ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยเร็วที่สุด
เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ต้องเปิดบัญชีออมทรัพย์กับธนาคาร ธ.ก.ส. โดยเป็นบัญชีที่เป็นชื่อตนเองเท่านั้น ห้ามเป็นบัญชีเปิดร่วมหรือเปิดเพื่อบุคคลอื่นๆ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการโอนเงินเข้าผิดบัญชี
ถก ธ.ก.ส. โอนเงินให้ชาวสวนยาง
สำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 กรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่า นายประพันธ์ บุณยเกียรติ ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2563 เตรียมหารือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อดำเนินการจ่ายเงินให้เกษตรกรชาวสวนยาง กว่า 1.8 ล้านราย ในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้
พื้นที่ยางพาราที่จะได้รับการชดเชยราคาครอบคลุม 18 ล้านไร่ ให้ยางแผ่นดิบคุณภาพดี ราคา 60 บาท/กิโลกรัม (กก.) น้ำยางสด (DRC 100%) ราคา 57 บาท/กก. และ ยางก้อนถ้วย (DRC 50%) ราคา 23 บาท/กก. กำหนดปริมาณผลผลิตยางที่จะประกันรายได้ คือ ผลผลิตยางแห้ง (DRC 100%) ไม่เกิน 20 กก./ไร่/เดือน และผลผลิตยางก้อนถ้วย (DRC 50%) ไม่เกิน 40 กก./ไร่/เดือน ตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางระยะที่ 2 วงเงินรวม 10,042 ล้านบาท
สำหรับรายละเอียดการประกันรายได้ชาวสวนยาง และคนกรีด จะได้รับเงินชดเชยราคายางพารางวดแรก โดยราคายางแผ่นดิบชั้นดีราคาอ้างอิง อยู่ที่ 62.62 บาท/กก. รัฐบาลไม่ต้องชดเชยยางในกลุ่มนี้เพราะราคาประกันที่รัฐบาลกำหนดไว้คือ 60 บาท/กก. น้ำยางสด (DRC 100%) ชดเชยราคา 4.14 บาท/กก. เนื่องจากราคาอ้างอิงอยู่ที่ 52.86 บาท/กก. ส่วนราคาประกันอยู่ที่ 57 บาท/กก. และยางก้อนถ้วย (DRC 50%) ราคาชดเชย 3.91 บาท/กก. จากราคาอ้างอิง 19.09 บาท/กก. ส่วนราคาประกันรายได้ที่ราคา 23 บาท/กก. โดยคาดว่าการจ่ายประกันฯ งวดแรกจะใช้งบประมาณ 2,000 ล้านบาท
เช็คเงินประกันรายได้เกษตร โครงการประกันรายได้ยางพารา เงื่อนไขดังนี้
1. ต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.)
2. เป็นสวนยางอายุ 7 ปีขึ้นไป ที่เปิดให้กรีดยางแล้ว
3. รายละไม่เกิน 25 ไร่
4. มีสัดส่วนแบ่งรายได้ระหว่างเจ้าของ 60% และ คนกรีดยาง 40%
5. ระยะเวลาโครงการ เดือนกันยายน 2563 - กันยายน 2564 (ประกันรายได้ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 - 1 มีนาคม 2564) ก่อนวันโอนเงินงวดแรก เกษตรการชาวสวนยางสามารถเข้าไปตรวจสอบสิทธิ์อีกครั้ง ผ่านเว็บไซต์ www.rubber.co.th
6. เข้าเว็บไซต์ http://www.rubber.co.th แล้วคลิกเลือกประเภท "บุคคลธรรมดา"