"ครม." ชงร่างแก้ไขพ.ร.บ.ยาเสพติด เข้าสภาฯ ดัน "กระท่อม" พ้นยาเสพติดประเภท5
"สมศักดิ์" นำเสนอหลักการ ร่างพ.ร.บ.ยาเสพติด ดันกระท่อม พ้นยาเสพติดประเภท5 เปลี่ยนเป็นยาเพื่อรักษาทางการแพทย์
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย เป็นประธานการกระชุม มีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยาเสพติดให้โทษ ฉบับที่ พ.ศ. ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ
โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำเสนอถึงหลักการของร่างกฎหมายดังกล่าวว่า แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ในประเด็นดังต่อไปนี้ 1. ยกเลิกพืชกระท่อมจากยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 2.ยกเลิกบทบัญญัติเกี่ยวกับการประกาศให้ท้องที่ใดเป็นท้องที่ที่ทำการเสพพืชกระท่อมได้โดยไม่เป็นความผิด 3.ยกเลิกบทกำหนดโทษและอัตราโทษสำหรับความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อม เหตุผล โดยที่ปัจจุบันพืชกระท่อมเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 แต่ในหลายประเทศมิได้กำหนดให้พืชกระท่อมเป็นยาเสพติดให้โทษ ประกอบกับอนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ ค.ศ.1961 และพิธีสารแก้ไขอนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ ค.ศ.1972 มิได้กำหนดให้พืชกระท่อมเป็นยาเสพติดให้โทษ ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับหลักสากลและบริบทของสังคมไทยในบางพื้นที่ที่มีการบริโภคพืชกระท่อมตามวิถีชาวบ้าน สมควรยกเลิกพืชกระท่อมจากการเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 จึงจำเป็นต้องตรา พ.ร.บ.นี้
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ประโยชน์ที่จะได้รับจากร่างกฎหมายนี้ คือ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เช่น 1.ใช้ผลิตยาแก้ปวดทดแทนมอร์ฟีนได้ โดยมีกระท่อมจะมีราคาที่ถูกกว่ามอร์ฟีนมาก หากมีการส่งเสริมจะมีการลดค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อยาจากต่างประเทศได้ สามารถ 2. สามารถนำพืชกระท่อมมาใช้ประโยชน์ทางเกษตรกรรม หากมีการส่งเสริมการนำพืชกระท่อมมาสร้างรายได้ ให้กับประชาชนได้ หากเปรียบเียบกับอินโนีเซียที่ส่งเสริมการปลูกและส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา มีมูลค่าสูงมาก ในอัตราไม่เกิน 1.5 ล้านต่อเดือน ราคากิโลกรัมละ16 เหรียญสหรัฐ เป็นข้อมูลของ ป.ป.ส.อินโดนีเซียน ที่เราได้รับมาตั้งแต่ พ.ศ.2562 แต่ปัจจุบันพืชกระท่อมของอินโดนีเซียตรวจพบสารปนเปื้อน จึงกระทบต่อการส่งออกพอสมควร 3. ลดความเป็นอาญา และลดภาระการบังคับใช้กฎหมาย โดยมีข้อมูลว่าค่าใช้จ่ายในคดีหนึ่งประมาณ 76,000 บาทต่อคดี
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การดำเนินการตามข้อสังเกตุกฤษฎีกาคณะที่ 10 มีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า หากรัฐบาล มีนโยบายที่จะเลิกพืชกระท่อมออกจากยาสเพติดประเภทที่ 5 ควรมีกฎหมายควบคุมเป็นการเฉพาะด้วย ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามข้อสังเกต กระทรวงยุติธรรมจึงได้ ยกร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม เพื่อกำหนดมาตรควบคุม ไมให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงพืชกระท่อม และป้องกันไม่ให้นำพืชกระท่อมไปใช้ในทางที่ผิด และมีการรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 3 ครั้ง โดย กว่า 90% เห็นด้วย และล่าสุด ครม.มีมติอนุมัติในหลักการพืชกระท่อม ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยเมื่อมีการแก้ไข พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฉบับนี้แล้ว เราจะมีกฎหมายอีกฉบับที่ออกมาควบคุมพืชกระท่อมแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวมีสมาชิกอภิปรายแสดงความเห็น แต่ยังไม่มีการลงมติใดๆ ต้องรอการพิจารณาในการประชุมสภาฯครั้งถัดไป.