ไทยร่วมวางกรอบ"พัฒนาแม่โขง" ป้อง ผลกระทบข้ามแดน
คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง เห็นชอบ ยุทธศาสตร์ลุ่มน้ำ10 ปีกำหนดกรอบการพัฒนาแม่น้ำโขงรับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ สู่ความยั่งยืน ป้องผลกระทบข้ามพรมแดน
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง(MRC) ผ่านระบบประชุมทางไกล ได้เห็นชอบ 4 ประเด็นสำคัญ คือ 1 .แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาลุ่มน้ำโขงระยะ 10 ปี (ปี 2564 - 2573) และแผนยุทธศาสตร์องค์กรคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงระยะ 5 ปี (ปี 2564 - 2568) ซึ่งจะเป็นกำหนดทิศทางการจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำโขงช่วง 10 ปีข้างหน้า เป็นกรอบในการดำเนินงานและจัดทำแผนปฏิบัติการของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง
โดยจะมีการเชื่อมโยงกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง และการแปลงยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติผ่านแผนกลยุทธ์คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ประกอบด้วย 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ รักษานิเวศ การเข้าถึงน้ำและการใช้น้ำและทรัพยากรที่เกี่ยวข้อง การพัฒนาเศรษฐกิจสังคม การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความร่วมมือกับ 6 ประเทศแม่น้ำโขง
2.แผนการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงในปี 2564 – 2565 ซึ่งไทยเสนอให้คณะกรรมการร่วม คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงกำกับดูแลและให้คำแนะนำสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงอย่างใกล้ชิด ในประเด็นการจัดสรรงบประมาณตามความต้องการ ความจำเป็นและกิจกรรม
.แผนยุทธศาสตร์การจัดการสินทรัพย์ด้านสิ่งแวดล้อมของลุ่มแม่น้ำโขง พ.ศ. 2564 - 2568 จะช่วยพัฒนากลยุทธ์การจัดการสิ่งแวดล้อมและจัดลำดับความสำคัญในการเสริมสร้างการคุ้มครองสินทรัพย์สิ่งแวดล้อมที่เป็นประโยชน์ร่วมกันของประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง และ 4.แผนแม่บทการคมนาคมขนส่งทางน้ำ ซึ่งสอดรับกับนโยบายยุทธศาสตร์การพัฒนาคมนาคมขนส่งทางน้ำในลุ่มน้ำโขงระหว่างไทยกับประเทศสมาชิก เป็นต้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการลงนามความตกลงเรื่องเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่า (Grant Agreement) ระหว่างคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) กับรัฐบาลแฟลนเดอร์ (Government of Flanders) ซึ่งเป็นรัฐบาลของส่วนภูมิภาคแฟลนเดอร์ในเบลเยี่ยม ที่จะเข้าร่วมในคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) ในฐานะประเทศหุ้นส่วนการพัฒนากับทาง MRC โดยรัฐบาลแฟลนเดอร์จะให้การสนับสนุนงบประมาณเพื่อร่วมมือกับ MRC ในเรื่องเกี่ยวกับน้ำและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสาขาที่รัฐบาลแฟลนเดอร์มีความเชี่ยวชาญ โดยจะส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีและการค้าระหว่างไทยกับรัฐบาลแฟลนเดอร์ในอนาคตด้วย
ทั้งนี้ไทยพร้อมสนับสนุนการรักษาสมดุลระหว่างการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ การดูแลประชาชนในภูมิภาค และสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย รวมถึงการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน้ำ และทรัพยากรอื่นในลุ่มน้ำโขง ควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่มุ่งสู่พัฒนาที่ยั่งยืนตามวิสัยทัศน์ของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) ในช่วง 10 ปีข้างหน้า
เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่ามีการพัฒนาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในแม่น้ำโขงสายประธาน ก่อให้เกิดความผันผวนของระดับน้ำ และส่งผลกระทบต่อชีวิต ความเป็นอยู่ของประชาชนริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งไทยตระหนักถึงความร่วมมืออย่างดีจากประเทศสมาชิก ประเทศคู่เจรจา ประเทศหุ้นส่วนการพัฒนา และองค์กรนานาชาติเพื่อตอบสนอง การเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของลุ่มน้ำโขง รวมถึงสนับสนุนให้เกิดการแบ่งปันประโยชน์จากการใช้และการเข้าถึงทรัพยากรน้ำสะอาด อย่างทั่วถึง เป็นธรรม และที่สำคัญคือการลดผลกระทบข้ามพรมแดน
เชื่อมั่นว่าการบูรณาการความร่วมมือที่เกี่ยวข้อง และส่งเสริมความร่วมมือเชิงสร้างสรรค์ในทุกระดับทั้งภายในและระดับภูมิภาคจะเป็นโอกาสและความท้าท้ายให้ MRC เป็นแกนกลางเชื่อมโยงประชากร สายน้ำและวัฒนธรรมผลักดันให้แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำแห่งมิตรภาพและสันติภาพ โดยยึดหลักธรรมาภิบาลเป็นแนวทางในการบริหารจัดการผ่านกลไกการเจรจาหารือบนหลักการสำคัญที่ว่า “ภายใต้สายน้ำเดียวกัน สายน้ำแห่งความเจริญรุ่งเรือง สายน้ำแห่งมิตรภาพและสันติภาพ เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”