สายการบินพร้อมส่งวัคซีนไฟเซอร์

สายการบินพร้อมส่งวัคซีนไฟเซอร์

ในช่วงที่บริษัทยาและสายการบินกำลังเตรียมการสร้างเครือข่ายขนส่งวัคซีน สำนักงานการบินกลางสหรัฐ เผยว่า ได้สนับสนุนการขนส่งวัคซีนโควิด-19 ปริมาณมหาศาลชุดแรกของไฟเซอร์เมืม่อสัปดาห์ก่อน

ก่อนที่ทางการจะอนุมัติวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) บริษัทยา สายการบิน และซัพพลายเชนส่วนอื่นๆ รวมทั้งตู้แช่เย็นสำหรับเก็บวัคซีนกำลังเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ เมื่อใดที่สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) อนุมัติสามารถส่งได้ทันที

แหล่งข่าววงในเผยกับเว็บไซต์ซีเอ็นบีซีว่า ในวันศุกร์ (27 พ.ย.) ที่ผ่านมา สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ บรรทุกวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์จากกรุงบรัสเซลส์มายังสนามบินนานาชาติโอแฮร์ในเมืองชิคาโกแล้ว

ไฟเซอร์พัฒนาวัคซีนร่วมกับบริษัทไบออนเทคของเยอรมนี ยื่นขออนุมัติให้ใช้ฉุกเฉินจากเอฟดีเอเมื่อวันที่ 20 พ.ย. ส่วนโมเดอร์นายื่นขออนุมัติเมื่อวันจันทร์ (30 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ผลการทดลองทางคลินิกของทั้งสองบริษัทป้องกันการติดเชื้อได้กว่า 90%

ไฟเซอร์ไม่ได้ให้ความเห็นเรื่องการขนส่งวัคซีนจากกรุงบรัสเซลส์ แต่ก่อนหน้านี้คิม เบนซ์เคอร์ โฆษกบริษัทเคยกล่าวว่า ไฟเซอร์จะไม่ขนส่งวัคซีนจนกว่าเอฟดีเอจะไฟเขียวให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินได้ คาดว่า เอฟดีเอจะประชุมกับคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ ถ้าเอฟดีเออนุมัติวัคซีนตัวใดตัวหนึ่งชาวอเมริกันบางส่วนจะได้รับวัคซีนเข็มแรกภายใน 2-3 สัปดาห์

วัคซีนของไฟเซอร์จำเป็นต้องเก็บในที่เย็นจัดอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส ส่วนวัคซีนโมเดอร์นายังคงตัวที่อุณหภูมิตู้เย็นทั่วไปหรือตู้แช่ทางการแพทย์ 2-8 องศาเซลเซียสได้นานถึง 30 วัน และเก็บในอุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียสได้นาน 6 เดือน

สำหรับเที่ยวบินของยูไนเต็ดนั้น วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานเป็นรายแรกว่า จำเป็นต้องได้รับอนุมัติพิเศษจากเอฟเอเอให้บรรทุกน้ำแข็งแห้งมากกว่าปริมาณปกติ เพราะวัคซีนต้องเก็บในที่เย็นจัด

เดือนก่อนเอฟเอเอแถลงว่า ได้ตั้งทีมงานพิเศษขึ้นมาหนึ่งทีมคอยดูแลเรื่องการขนส่งวัคซีนอย่างปลอดภัย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

“วัคซีนหลายตัวจำเป็นต้องเก็บในอุณหภูมิเย็นจัดตลอดเวลาการขนส่ง ซึ่งในบางสถานการณ์จำเป็นต้องใช้น้ำแข็งแห้งซึ่งเป็นวัตถุอันตราย” แถลงการณ์เอฟเอเอระบุ

ขณะนี้เอฟเอเอกำลังประสานงานกับผู้ผลิต สายการบิน และสนามบิน ใช้คู่มือตามระเบียบในปัจจุบันว่าด้วยการขนส่งน้ำแข็งแห้งปริมาณมหาศาลในเที่ยวบินขนส่งสินค้าอย่างปลอดภัย

ซีเอ็นบีซีรายงานด้วยว่า เบื้องต้นวัคซีนไฟเซอร์ยังมีจำกัดมาก ก่อนหน้านี้บริษัทบอกว่า ภายในสิ้นปีนี้สามารถผลิตได้ 50 ล้านโดส ซึ่งการฉีดต้องอาศัย 2 โดสเท่ากับว่าชาวอเมริกันราว 331 ล้านคน ได้ฉีด 25 ล้านคน

ขณะเดียวกันสายการบินอื่นก็กำลังเตรียมการขนส่งวัคซีนเช่นกัน สัปดาห์ก่อนแผนกคาร์โกของอเมริกันแอร์ไลน์จับมือกับบริษัยาพันธมิตร เริ่มเที่ยวบินทดลองจากไมอามีไปยังอเมริกาใต้ “เพื่อทดสอบบรรจุภัณฑ์กันความร้อนและกระบวการจัดการที่สายการบินจัดทำขึ้นเพื่อขนส่งวัคซีน” โฆษกอเมริกันแอร์ไลน์ระบุ

อีกความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้าคือ การขนส่งทางอากาศทำได้จำกัดเพราะโควิด-19 ระบาด สายการบินยกเลิกหลายเที่ยวบิน ที่ว่างใต้ท้องเครื่องสำหรับขนส่งสินค้ามีน้อยลง อย่างไรก็ตามยูไนเต็ดและสายการบินอื่นๆ เริ่มจัดเที่ยวบินคาร์โกอย่างเดียวแล้ว เพื่อเพิ่มรายได้ที่หายไปเนื่องจากผู้โดยสารลดลงมาก

ไม่เพียงเท่านั้นสายการบินยังใช้โอกาสที่ตนเองมีบทบาทสำคัญในการขนส่งวัคซีนช่วยชีวิตผู้คน เป็นเครื่องมือต่อรองขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางเพิ่ม ในช่วงที่ผู้คนยังเดินทางไปไหนมาไหนไม่ได้มากเหมือนเมื่อปีก่อน

“แอร์ไลน์ฟอร์อเมริกา” กลุ่มตัวแทนสายการบินใหญ่ในสหรัฐทำหนังสือถึงผู้นำในสภาคองเกรสเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ระบุ “ในช่วงที่ประเทศเผชิญความท้าทายด้านโลจิสติกส์สำหรับกระจายวัคซีน การรับรองว่ามีพนักงานผู้มีคุณสมบัติและมีเครื่องบินเพียงพอสำหรับปฏิบัติภารกิจให้สมบูรณ์ถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง”

แหล่งข่าวเผยด้วยว่า หน่วยงานรัฐบาลกลางบางหน่วยเริ่มส่งแผนฉีดวัคซีนให้พนักงานแล้ว โดย 5 หน่วยงานเริ่มบอกพนักงานว่าจะได้รับวัคซีนไฟเซอร์หรือโมเดอร์นาภายใน 8 สัปดาห์

จีนส่งวัคซีนให้‘คิมจองอึน’

ส่วนความคืบหน้าวัคซีนจีนสำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน แฮร์รี คาเซียนิส ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือประจำศูนย์ผลประโยชน์แห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานคลังสมองในสหรัฐ เปิดเผยโดยอ้างแหล่งข่าวญี่ปุ่นว่า รัฐบาลจีนได้ส่งวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ให้กับคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ โดยคาดว่าคิม จอง อึน และคนใกล้ชิดหลายคน ทั้งคนในครอบครัวและนักการเมืองระดับสูง ได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าวแล้ว

รายงานข่าวระบุว่า วัคซีนที่จีนส่งให้เกาหลีเหนือนั้นเป็นวัคซีนทดลอง และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าบริษัทจีนแห่งใดได้ส่งวัคซีนดังกล่าวให้เกาหลีเหนือ และไม่ทราบว่าได้ผลหรือไม่

ปัจจุบัน มีบริษัทจีนอย่างน้อย 3 แห่งที่กำลังทดลองวัคซีนโควิด-19 ซึ่งรวมถึงบริษัทซิโนแวค แคนซิโนไบโอ และซิโนฟาร์ม แม้ไม่มีบริษัทใดเปิดเผยการทดลองทางคลินิกเฟส 3 ให้สาธารณชนรับรู้ แต่ซิโนฟาร์มกล่าวว่า วัคซีนทดลองของบริษัทถูกฉีดให้ประชาชนในจีนเกือบ 1 ล้านคนแล้ว

สำหรับวัคซีนที่ผู้นำเกาหลีเหนือได้รับนั้นผู้เชี่ยวชาญบางคนสงสัยว่า เป็นวัคซีนทดลองตัวหนึ่ง

“ต่อให้วัคซีนจีนได้รับการรับรองแล้ว แต่ไม่มียาตัวไหนเพอร์เฟ็คท์ ตัวเขาเองย่อมไม่อยากรับความเสี่ยงในเมื่อเขามีที่หลบมากมายจนมั่นใจได้ว่าสามารถแยกตัวเองได้เกือบสมบูรณ์” ชเว จุงฮุน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อที่แปรพักตร์จากเกาหลีเหนือมาอยู่เกาหลีใต้ในปี 2555 ให้ความเห็น

ด้านมาร์ค แบร์รี นักวิเคราะห์เอเชียตะวันออกและผู้ช่วยบรรณาธิการวารสารนานาชาติเวิลด์พีซกล่าวว่า คิมชอบวัคซีนที่ยุโรปรับรองแล้วมากกว่าวัคซีนที่ปักกิ่งจัดให้

“ความเสี่ยงสูงเกินไป แต่เขาก็แฮปปี้ที่ได้รับอุปกรณ์ป้องกันส่วนตัวของจีน” นักวิเคราะห์ทวีตข้อความ

เกาหลีเหนือไม่ยืนยันว่ามีผู้ติดโควิด-19 แต่หน่วยข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ (เอ็นไอเอส) กล่าวว่า ประเทศที่ค้าขายและผู้คนไปมาหาสู่กับจีนก่อนจะปิดพรมแดนช่วงปลายเดือน ม.ค. ไม่มีทางหนีการระบาดไปได้

เดือนที่แล้วไมโครซอฟท์เผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์เกาหลีเหนือ 2 กลุ่มพยายามเจาะเข้าระบบบริษัทผลิตวัคซีนในหลายประเทศ แต่ไม่ได้ระบุว่าบริษัทใดตกเป็นเป้า แหล่งข่าวหลายรายบอกกับรอยเตอร์ว่า แอสตร้าเซนเนก้าเป็นหนึ่งในนั้น

สัปดาห์ก่อนเอ็นไอเอสแถลงว่า ได้ทำลายความพยายามของเกาหลีเหนือในการเจาะระบบผู้ผลิตวัคซีนเกาหลีใต้หลายราย