สถานการณ์ 'โควิดเชียงใหม่' ผู้ว่าฯยันสั่งปิดสถานบันเทิง ไม่ป้องกันแพร่ระบาด

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะพบผู้ป่วยรายล่าสุด จังหวัดเชียงใหม่ได้ให้ความสำคัญ ในเรื่องของมาตรการการคัดกรองป้องกันแพร่เชื้อโควิด การที่คนจะเข้าไปยังสถานบริการ ร้านค้า หรือในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน เช่น ถนนคนเดิน ได้ให้ความสำคัญกับการคัดกรอง สวมใส่หน้ากากอนามัย ตรวจเช็คอุณหภูมิ กรณีที่อยู่พื้นที่แออัด ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา

กรณีที่พบผู้ป่วยที่เชียงใหม่ ได้ขอความร่วมมือให้ทุกสถานที่ยกระดับตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ให้อยู่ในระดับที่สูง ขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่ ออกตรวจการปฏิบัติตามมาตรการของสถานบริการหรือสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกสถานที่เป็นอย่างดี

ขณะเดียวกัน การป้องกันการนำเข้าจากชายแดน ได้มีการตรึงกำลังบริเวณชายแดนอย่างเข้มข้น พร้อมทั้งร้องขอให้เจ้าหน้าที่โควิดชุมชนได้ยกระดับการตรวจในพื้นที่หากพบคนแปลกหน้าในหมู่บ้านต้องแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบและตรวจสอบทันที

นอกจากนั้น การตั้งด่านตรวจในเส้นทางที่มาจากจังหวัดเชียงราย บริเวณ อ.แม่อาย และอ.ดอยสะเก็ด โดยจะเน้นพิจารณาบุคคลที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอาจทำให้ผู้เดินทางไม่ได้รับความสะดวกสบายนัก แต่เพื่อความปลอดภัยของทุกคนต้องขอความร่วมมือในการปฏิบัติตามเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อให้ความมั่นใจว่าจะไม่มีการนำเข้าเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาในพื้นที่อีก เนื่องจากเชียงใหม่ปลอดเชื้อมานานมากกว่า 6 เดือนแล้ว

นอกจากนี้ กลุ่มผู้ประกอบการภาคเอกชน มีความมั่นใจในความปลอดภัยในพื้นที่ จึงมีมติสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ หากติดเชื้อโควิด-19 สืบเนื่องจากผู้ป่วยรายที่ 42 ของจังหวัดเชียงใหม่ จะมอบเงินทำขวัญให้ 100,000 บาท

ในเรื่องของการป้องกันการแพร่ระบาด ทางจังหวัดได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง มีการทำงานในเชิงรุกตลออดเวลา โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่ออกตรวจตลอดเวลา ขณะเดียวกันเมื่อพบผู้ป่วยรายที่ 42 ได้มีการยกระดับความเข้มงวดตามาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น จึงขอให้ทุกคนมั่นใจว่าจะไม่มีการแพร่ระบาดในวงกว้างอย่างแน่นอน

ในส่วนของสถานบันเทิงต่างๆ เองได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี สถานบริการเองทราบเป็นอย่างดีว่าต้องมีการสร้างความเชื่อมั่น เพราะหมายถึงรายได้ของสถาบริการเอง สำหรับสถานประกอบการที่คล้ายกับสถานบริการ มีปิด 1 แห่ง เพื่อปรับปรุงกระบวนการป้องกัน เมื่อปรับปรุงแล้วเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถร้องขอให้เจ้าหน้าที่ เข้าไปตรวจสอบหากการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ เจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้กลับมาเปิดได้อีกครั้ง

“ยืนยันว่าจังหวัดเชียงใหม่ ยังไม่มีมาตรการที่จะล็อคดาวน์จังหวัด รวมถึงผู้ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่หรือเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ออกไปไม่ต้องกักตัว 14 วัน ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติตามมาตรการการใช้ชีวิตในรูปแบบNew Normal” นายเจริญฤทธิ์ กล่าว