ผู้ว่าฯ พิษณุโลก เผยประชาชนอย่าตื่นตระหนกการแพร่ระบาดโควิด-19 ขณะที่สนามบินยกระดับมาตรการคุมเข้มการระบาดอย่างต่อเนื่อง หลังพบไทม์ไลน์ของผู้ป่วยชาวพิจิตร เดินทางมาลงท่าอากาศยาน สวมหน้ากากอนามัยตลอดที่นั่งเครื่องมา
วันที่ 3 ธันวาคม 2563 บรรยากาศที่สนามบินจังหวัดพิษณุโลก ยังคงมีผู้โดยสารเดินทางใช้บริการตามปกติ ในแต่ละเที่ยวบิน ภายใต้มาตรการตรวจเข้มงวดและรักษามาตรฐานการควบคุมการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19
นางรุจาภา หอมจันทร์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยาน พิษณุโลก กล่าวว่า ท่าอากาศยานพิษณุโลก ได้มีการเข้มงวดผู้ใช้บริการ รวมถึงมีมาตรการรักษาความปลอดภัยของการระบาดโรคโควิด-19 และยกระดับมากขึ้น โดยเข้มงวด ให้ผู้โดยสารที่ใช้บริการท่าอากาศยานสแกน QR code ไทยชนะทุกครั้ง เข้มงวดการรณรงค์ให้ใส่หน้ากากอนามัยทุกคน มีการจัดตั้งจุดวัดอุณหภูมิก่อนเข้าอาคารที่พักผู้โดยสาร จัดระยะห่าง จุดตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายบริเวณประตูทางเข้า พร้อมทั้งเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดตามจุดที่มีการสัมผัสให้ถี่ขึ้น
โดยสนามบินพิษณุโลก ช่วงเวลาปกติ จะมีเที่ยวบิน 7 ไฟท์ 14 เที่ยวบิน ใน 3 สายการบิน ซึ่งหลังจากที่มีกรณี หญิงวัย 25 ปี ชาว จ.พิจิตร ติดโควิด-19 ได้ขึ้นเครื่องจากดอนเมืองมาลงที่สนามบินพิษณุโลก เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2563โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD3306 ช่วงเวลา 17.15-18.05 น.ได้ประสานพนักงานทำความสะอาด เจ้าหน้าที่ดับเพลิง เข้ามาทำความสะอาด อาคารที่พักผู้โดยสาร อุปกรณ์ เครื่องมือโดยใช้น้ำฉีดล้างถนน และใช้น้ำยาฆ่าเชื้อขัดพื้นถนน บริเวณหน้าอาคารท่าอากาศยาน ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในอาคารที่พักผู้โดยสาร เพื่อสร้างความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการท่านอากาศยานพิษณุโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโรงเรียนที่มีการสั่งปิดการเรียนสอน ล่าสุดมีจำนวนทั้งสิ้น 7 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนนครไทย อ.นครไทย ,โรงเรียนชุมชน 8 (ราฏร์อุทิศ) อ.นครไทย, โรงเรียนเนินมะปรางศึกษาวิทยา อ.เนินมะปรางม, โรงเรียนบางกระทุ่มพิทยาคม อ.บางกระทุ่ม ,โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคเหนือ , โรงเรียนจ่านกร้อง และโรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร อ.เมืองพิษณุโลก
ขณะที่นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับทราบข้อมูลจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด จ.พิษณุโลก ทราบว่ามีผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากการลักลอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ เดินทางด้วยเครื่องบินไปดอนเมือง และต่อเครื่องมาที่ จ.พิษณุโลก และเดินทางต่อไปที่ จ.พิจิตร ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดพิษณุโลก สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก มีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำแล้วประมาณ 20 คน สำหรับผู้เสี่ยงสูง 4 คนทราบแล้วว่าเป็นใครอยู่ที่ไหน ขณะนี้ได้ส่งตรวจและกักตัว และอาจจะมีบางโรงเรียนใน จ.พิษณุโลก ก็สั่งปิดแล้วตาม แต่ในภาพรวมของจังหวัดและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ยังเอาอยู่เพราะส่วนใหญ่ยังสวมหน้ากากอนามัยป้องกันตัวเองกันตลอดเวลา
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
ส่วนสายการบิน ก็มีมาตรการของเขา ส่วนกรณีผู้ติดเชื้อชาว จ.พิจิตร นั้นเขาก็สวมหน้ากากอนามัยตลอดที่นั่งเครื่องมา เมื่อมาถึงสนามบินพิษณุโลก ได้เดินทางกลับไป จ.พิจิตรด้วยรถส่วนตัวของเพื่อนชาว จ.พิจิตรมารับ โดยไม่ได้แวะที่ไหนใน จ.พิษณุโลก
ขณะนี้ตรวจกลุ่มเสี่ยงสูงแล้ว 4 ราย รอผลตรวจและจะมีการตรวจซ้ำ ขอให้ชาวพิษณุโลก สบายใจได้ ว่าพฤติกรรมของผู้ติดเชื้อชาวพิจิตร ไม่ได้น่ากลัว เพราะไม่ใช้การไปอยู่รวมกันแบบแออัด เบียดเสียด ประกอบกับสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา การที่จะมีสารคัดหลั่งหลุดรอดออกมาโอกาสเป็นไปได้น้อยมาก ขอให้มั่นใจ
และอยากฝากไว้ให้ชาวพิษณุโลก รักษามาตรการที่ทางกระทรวงสาธารณสุขได้แนะนำไว้ เช่นกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ทุกครั้งที่มีโอกาส คือการใช้ชีวิตใหม่แบบ new nolmal แล้วเราจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโรคนี้ได้อย่างปลอดภัย