บ.ประมูลร่วมวงช้อปหรูออนไลน์

ตลาดค้าปลีกขนาดใหญ่ไม่ใช่ตลาดเดียวที่ทุ่มโฆษณาขายสินค้าออนไลน์ในเทศกาลชอปปิงวันหยุด บริษัทประมูลชื่อดังก็โดดร่วมวงด้วยเช่นกัน

เว็บไซต์บลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทประมูลคริสตี้เปิดตัว “สัปดาห์สินค้าหรู” ทั่วโลก ตอบรับความต้องการซื้อที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ (คำว่า “สัปดาห์” ปีนี้กำหนดไว้กว้างๆ เนื่องจากการลดราคาบางรายการเริ่มไปแล้ว และการขายต่อเนื่องไปจนถึงกลางเดือนธ.ค.)

คาโรไลน์ เออร์วิน หัวหน้าฝ่ายอีคอมเมิร์ซแผนกอัญมณีของคริสตี้เผยว่า ปีนี้ยอดขายออนไลน์ในเดือน พ.ย.และธ.ค.พุุ่งขึ้น 200%

ช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.ปีก่อน คริสตี้เปิดขายสินค้าหรูออนไลน์แค่ 4 ครั้ง ยอดขายน่าจะอยู่ที่ราว 9.5 ล้านดอลลาร์ ปีนี้จะจัด 12 ครั้ง ยอดขายประเมินไว้ที่เกือบๆ 40 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 322% เออร์วินมองว่า นี่คือปฏิกริยาของตลาด

บริษัทประมูลซัทเทบีส์ก็จัดงานไลฟ์ขายสินค้าหรูของตนเองเหมือนกันในเดือน ธ.ค. ชื่องาน“เทศกาลแห่งความมหัศจรรย์" (The Festival of Wonder) ปริมาณการขายพุ่งไป 4 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อน ยอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้น 5 เท่า ปัจจุบันอยู่ที่ 150.5 ล้านดอลลาร์ ในจำนวนนี้เป็นการขายอัญมณีออนไลน์ 79.7 ล้านดอลลาร์ มากกว่าปีที่แล้ว 9 เท่า และเป็นการซื้อขายนาฬิกา 41.95 ล้านดอลลาร์ 5 เท่าของปี 2562

ขณะเดียวกัน 1stDibs แพลตฟอร์มออนไลน์ขายเฟอร์นิเจอร์ งานศิลปะ และอัญมณีระดับไฮเอนด์ มูลค่าการซื้อขายสุทธิช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะ 2 เดือนก่อนหยุดยาว

เดวิด โรเซนแบลตต์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร1stDibs ยอมรับว่าการเติบโตเร่งตัวขึ้น ไม่ใช่แค่จำนวนการประมูลสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ราคาเปิดจากลูกค้าก็สูงเกินคาด

“เป็นครั้งแรกที่ราคาพุ่งไปถึง 20,000 ดอลลาร์ การขายแต่ละครั้งเราต้องการเสนอชุดสินค้ามูลค่าสูงไม่กี่รายการเพื่อดูการตอบรับของลูกค้า จากนั้นมันก็ได้รับความนิยมไปเอง”

ก่อนปี 2563 การประมูลขายเฉพาะออนไลน์สำหรับสินค้ารายการเดียวของคริสตี้เคยสูงถึง 80,000 ดอลลาร์ ปีนี้สินค้า 25 รายการขายได้กว่า 1 แสนดอลลาร์ หนึ่งในนั้นคือแหวนเพชร 28.86 กะรัตขายได้ในราคา 2.1 ล้านดอลลาร์

ที่1stDibs โรเซนแบลตต์ เผยว่า ยอดขายสินค้าออนไลน์รวมสำหรับสินค้าที่ราคาเกิน 1 แสนดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับปี 2562

“ความต้องการสินค้าทุกอย่างที่เราขายเพิ่มขึ้นทั้งหมด” ผู้บริหาร1stDibs กล่าว

ยอดขายสินค้าหรูผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากผู้บริโภคสบายใจขึ้นกับการซื้อสินค้าใช้แล้วทางออนไลน์ อีกทั้งบริษัทประมูลและตัวแทนจำหน่ายใช้ยุทธศาสตร์อื่นๆ นอกเหนือจากการเปิดประมูลสดแบบเดิมๆ

เมื่อต้องตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ชัตดาวน์ยาวนานหลายเดือน ตัวแทนจำหน่ายสินค้าหรูพบเรื่องชวนประหลาดใจที่ว่า ผู้คนยินดีจ่ายเงินมากกว่าครั้งไหนๆ

“พฤติกรรมผู้ซื้อเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ชั่วข้ามคืนช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาตัวเลขเท่ากับ 10 ปี”โรเซนแบลตต์ ระบุ

ส่วนใหญ่เป็นเพราะบริษัทเหล่านี้ปรับมุมมองของตนเองเสียใหม่ ว่าสินค้าใดขายได้โดยลูกค้าไม่ต้องเห็นด้วยตนเอง

“สินค้าหลายตัวโดนใจก็ขายได้ ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกอะไรมาขายบนออนไลน์ เราไม่ขายของสูงค่าที่จำเป็นต้องหาข้อมูลเยอะ เราแค่เสนอสินค้าที่รู้จักกันอยู่แล้ว คุณรู้จักแบรนด์และอาจรู้ดีไซน์ไปแล้วด้วย” เออร์วินแสดงทัศนะ

ที่คริสตี้ ลูกค้ามหาเศรษฐีสามารถประมูลออนไลน์ซื้อกระเป๋าเบอร์กิน รุ่นหิมาลายาของแอร์เมส ฮาร์ดแวร์ทำจากเพชรและทองคำ ในราคาประมาณ 2-2.5 แสนดอลลาร์ นาฬิกาโคโนกราฟ Patek Philippe พิงค์โกลด์ 18 กะรัต ผลิตเมื่อปี 2493 ราคาประมาณ 3-6แสนดอลลาร์

ที่ซัทเทอร์บีส์คนที่มีงบประมาณชอปปิงวันหยุดราว 250,000 ดอลลาร์ สามารถยื่นประมูลออนไลน์แหวนเพชรสี่เหลี่ยมขอบมน 5 กะรัต ขนาบด้วยเพชรรูปหัวใจ 0.8 กะรัต บนตัวเรือนแพลตินัม มูลค่าประเมินที่ 150,000-200,000 ดอลลาร์

สำหรับคนที่พลาดเบอร์กินรุ่นหิมาลายาจากคริสตี้ สามารถประมูลรุ่นเล็กกว่าสักรุ่นหนึ่งของปี 2553 ที่ซัทเทบีส์เสนอขายในราคา 260,000-300,000 ดอลลาร์ โดยจะปิดการขายในวันถัดไป

เศรษฐีที่กำลังมองหาของถูกใจอาจเจอสร้อยคอเพชรสีเหลืองขนาด 35.31 กะรัต ล้อมด้วยเพชรหลากทรงอีก 47 กะรัตในราคา 2.35 ล้านดอลลาร์ได้ที่1stDibs หากอยากได้สินค้าด่วนก็แค่จ่ายเพิ่มอีก 100 ดอลลาร์

สำหรับเซอร์ไพรส์วันหยุด นักช้อปสามารถซื้อฉากบังไฟยุควิกตอเรียลายฮัมมิงเบิร์ดอัดแน่นได้ในราคา 365,000 ดอลลาร์ (แต่ต้องเสียภาษีขายสูงกว่า32,000 ดอลลาร์)

ทั้งหมดนี้เหล่าผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เป็นความพยายามของร้านค้าในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่ออีคอมเมิร์ซมูลค่าสูง