เช็คอาการเสี่ยงโรคจาก 'PM 2.5' พร้อมการรับมือจากฝุ่นพิษ

เช็คอาการเสี่ยงโรคจาก 'PM 2.5' พร้อมการรับมือจากฝุ่นพิษ

"ฝุ่น PM 2.5" กลับมาอีกครั้ง อาการเสี่ยงโรคจาก 'PM 2.5' และ วิธีรับมือกับฝุ่นพิษชนิดนี้ควรทำอย่างไร ตรวจสอบได้ที่นี่!

วันที่ 15 ธ.ค.2563 โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยกรณีสถานการณ์การสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครขณะนี้ ว่าวันที่ 14 ธ.ค.63 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เฉลี่ย 60 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และวันนี้ (15 ธ.ค.63) มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เฉลี่ย 74.6 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร

จากสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ กทม. ยกระดับการจัดการ PM2.5 เป็น ระยะ 2 จากมาตรการแผนแก้ไขปัญหาฝุ่น 4 ระยะ ตั้งแต่ 1 ธ.ค - 28 ก.พ 64 เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับอันตรายที่มากับ  PM2.5 กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รวบรวมอาการเสี่ยง และวิธีรับมือกับฝุ่นเพื่อสุขภาพที่ดีในอนาคต 

160802963671

  • "ฝุ่น" ส่งผลร้ายต่อสุขภาพอย่างไร

ข้อมูลจาก ศ.ดร.นพ.พงศ์เทพ วิวรรธนะเดช อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เคยอธิบายไว้ว่า ฝุ่นขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนที่ปะปนอยู่ในอากาศ เมื่อเราหายใจเข้าไป ฝุ่นนี้จะสามารถเข้าสู่ปอดและซึมผ่านผนังปอดเข้าสู่กระแสเลือดได้ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพหลายอย่าง มีอาการทั้งแบบเฉียบพลัน และแบบเรื้อรัง ได้แก่

- แบบเฉียบพลัน: ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ มักจะมีอาการไอ เจ็บคอ หายใจมีเสียงฟืดฟาด เลือดกำเดาไหล ซึ่งหากเลือดไหลลงคอก็จะทำให้เสมหะมีเลือดเจือปน หรือหากเข้าตาก็จะทำให้เคืองตา ตาแดง และหากโดนผิวหนังก็จะทำให้เกิดผื่นคัน เป็นตุ่มได้

- แบบเรื้อรัง: อาการจะค่อยๆ สะสม แล้วแสดงผลในระยะยาว เช่น เส้นเลือดหัวใจตีบตันทำให้หัวใจวาย หัวใจเต้นผิดปกติ เส้นเลือดสมองตีบทำให้เกิดภาวะอัมพาตหรือเสียชีวิต เพิ่มความเสี่ยงโรคถุงลมโป่งพอง โรคมะเร็งปอด ฯลฯ ซึ่งผลกระทบเหล่านี้มีการยืนยันที่ตรงกันจากงานวิจัยทั่วโลก

หากคุณภาพอากาศกรุงเทพฯ และปริมณฑลแย่ลงไปอีก จนถึงขั้นตรวจพบ PM2.5 ที่เกินค่ามาตรฐานสูงมากๆ แล้วชาวกรุงยังไม่มีการป้องกันฝุ่นที่ถูกต้อง นั่นก็จะเปรียบเสมือนคุณสูบบุหรี่วันละหลายมวนเลยทีเดียว เรื่องนี้ยืนยันได้จาก นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นักธรรมชาติวิทยาและนักอนุรักษ์ ที่เคยโพสต์ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Rungsrit Kanjanavanit ที่ระบุว่า ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ทุกๆ 22 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หากสูดหายใจเข้าไปโดยไม่ป้องกันติดต่อกัน 24 ชั่วโมง จะเทียบเท่ากับการสูบบุหรี่ 1 มวนเลยทีเดียว

  • รับมือฝุ่นพิษอย่างไร

ในเมื่อคนที่ทำงานในกรุงเทพฯ ยังคงต้องทำงานและใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ต่อไป หนีไปไหนไม่ได้ ก็ต้องหาทางหลีกเลี่ยงและป้องกัน ฝุ่น PM 2.5 ให้ได้มากที่สุด กระทรวงสาธารณสุข จึงได้แนะนำประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงทางสุขภาพที่จะได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว ในพื้นที่ที่ฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน เอาไว้ว่า 

"ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรม หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านเป็นเวลานาน ควรสวมหน้ากากอนามัย เพื่อเป็นการป้องกันฝุ่นละออง รวมถึงป้องกันโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นไปตามหลักการป้องกันไว้ก่อน"

160802962898

  • มีอาการเสี่ยง แล้วไปรักษาที่ไหน

สำหรับใครที่เจอพิษฝุ่น PM2.5 และมีอาการเสี่ยงต้องการคำปรึกษา โรงพยาบาลในประเทศไทยเปิดคลินิกพิเศษรองรับปรึกษาเรื่องอาการฝุ่น PM2.5 คือ

คลินิกมลพิษทางอากาศ รพ.ตากสิน
เปิดเฉพาะวันจันทร์ และ พฤหัส เวลา 8.00 - 12 .00 น

คลินิกมลพิษทางอากาศ รพ.เจริญกรุงประชารักษ์
เปิดทุกวันจันทร์ - ศุกร์ (ยกเว้นวันหยุดวันนักขัตฤกษ์) เวลา 08.00 - 16.00 น.

คลินิกมลพิษทางอากาศ รพ.กลาง สำนักการแพทย์
เปิดทุกวันพฤหัส เวลา 13.00 - 15.30 น

160803158516

นอกจากนี้ยังสามารถเข้าไปปรึกษาที่ ศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม. ที่ให้คำปรึกษาและให้บริการรักษาเบื้องต้น 69 แห่ง 73 สาขา รวมทั้ง รพ. ในสังกัด กทม. 10 แห่ง

รวมถึงหากใครไม่สะดวกไป ณ สถานพยาบาลก็สามารถเช็คอาการ และรับคำแนะนำออนไลน์ผ่าน คลินิกมลพิษทางอากาศออนไลน์ www.pollutionclinic.com ได้เช่นกัน