เชียงใหม่กักตัวผู้เสี่ยงสูงสัมผัสผู้ป่วยอยุธยา 9 ราย เสี่ยงต่ำ 11 ราย
เชียงใหม่กักตัวผู้เสี่ยงสูงสัมผัสผู้ป่วยอยุธยา 9 ราย เสี่ยงต่ำ 11 ราย พร้อมสั่งปิดโรงเรียน-จำกัดการเดินทางคนแม่อาย 3 ตำบล (แม่อาย-ท่าตอน-มะลิกา)
เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.63 นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ แถลงถึงกรณีที่มีข่าวจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แถลงพบหญิงป่วยโควิด 1 ราย มีไทม์ไลน์ เดินทางกลับมาจากเชียงใหม่ และเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พบติดเชื้อโควิด-19 ไม่มีอาการ จำนวน 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 29 ปี อาชีพรับจ้างร้านเสริมสวย ใน จ.เชียงใหม่
สำหรับไทม์ไลน์ ของผู้ป่วยรายดังกล่าว
- วันที่ 16 ธันวาคม 2563 โดยสารมากับรถบัสสองชั้น ท่าตอน-กรุงเทพมหานคร นั่งมาชั้นล่าง มาด้วยกัน 3 คน ผู้ป่วยสวมหน้ากากตลอดเวลา
- วันที่ 17 ธันวาคม เวลาประมาณ 05.00 น. เดินทางถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงรถที่บริเวณต่างระดับบางปะอินถนนสายเอเชีย นั่งวินรถจักรยานยนต์ กลับบ้านพักใน อ.บางปะอิน
- วันที่ 18 ธันวาคม เวลาประมาณ 10.30 น. นั่งท้ายรถกระบะ เดินทางมาตรวจ หาเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่โรงพยาบาลบางปะอิน
- วันที่ 19 ธันวาคม เวลาประมาณ 08.00 น. ไปเดินซื้อของที่ตลาดเช้า (ตลาดหมู่บ้านศรีทอง) อ.บางปะอิน วันเดียวกันทราบผลตรวจพบติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่มีอาการ และเข้ารับการรักษาตัวทันทีที่โรงพยาบาล
ล่าสุด ในบ่ายวันนี้(20 ธ.ค.) ทางทีมสอบสวนโรคสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับทีมสอบสวนโรคสำนักงานสาธารณสุขอำเภอแม่อาย ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรค เบื้องต้นพบว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าว มีภูมิลำเนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางเข้ามาทำงานที่ร้านเสริมสวย ในอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 5 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ได้สอบสวนหาผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง จำนวน 9 ราย เป็นผู้อยู่ร่วมบ้านและร้านเสริมสวย ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ จำนวน 11 ราย ผู้สัมผัสทั้งหมดได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ขณะนี้รอผลตรวจ
ทั้งนี้ ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีข้อสั่งการและมาตรการในการควบคุมป้องกันโรคสำหรับกรณีพบผู้ติดเชื้อที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และมีประวัติเดินทางจาก อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ดังนี้
1. จำกัดการเดินทางของประชาชนใน 3 ตำบล คือ ตำบลท่าตอน ตำบลมะลิกา และตำบลแม่อาย โดยขอความร่วมมือประชาชนพักอยู่ในที่พักของตนเอง พร้อมสังเกตอาการตนเอง หากมีความจำเป็นต้องเดินทางให้แจ้งความจำเป็นต่อทีมโควิดชุมชน เพื่อแจ้งให้ รพ.สต. ออกใบรับรองการเดินทางออกนอกพื้นที่
2. ขอความร่วมมือให้ประชาชนเคร่งครัดในมาตรการการป้องกันโรค เช่น สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ รักษาระยะห่าง สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงให้ทำการกักตัวที่บ้านอย่างเคร่งครัด
3. เร่งรัดการค้นหาผู้ติดเชื้อในพื้นที่ โดยพิจารณาถึงลำดับความสำคัญของความเสี่ยงของแต่ละกลุ่ม
4. ให้สถานที่และสถานบริการทุกแห่งยกระดับการคัดกรองผู้ที่เดินทางเข้าใช้บริการอย่างเคร่งครัด ตามมาตรฐานของ ศบค.
5. ให้ทางอำเภอแม่อายดำเนินการจัดตั้งจุดตรวจบริเวณเขตติดต่อในพื้นที่ของ 3 ตำบล คือ ตำบลท่าตอน ตำบลมะลิกา และตำบลแม่อาย
6. บูรณาการทีมตรวจคัดกรองจากจังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอข้างเคียง เพื่อดำเนินการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เสี่ยงให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน
7. ปิดโรงเรียนในพื้นที่ 3 ตำบล เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 21-23 ธ.ค. 63 สำหรับนักเรียน นักศึกษาที่มีภูมิลำเนาใน 3 ตำบล ส่วนนักเรียน ที่เดินทางไปเรียนในโรงเรียนต่างพื้นที่ ให้หยุดเรียนโดยสถานศึกษาไม่นับเป็นวันลา ส่วนการปิดสถานศึกษาอื่นๆ ให้อยู่ดุลยพินิจของคณะกรรมการควบคุมโรคระดับอำเภอ พร้อมแจ้งให้คณะกรรรมการควบคุมโรคระดับจังหวัดทราบทุกครั้ง
ส่วนกรณีพบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนในตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาคร ได้มีมาตรการ ดังนี้
1. ให้ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดเสี่ยง (สมุทรสาคร) ตั้งแต่ วันที่ 1 ธ.ค. จนถึงปัจจุบัน ให้มาแสดงตัวต่อเจ้าพนักงานโรคติดต่อในพื้นที่ และทำการกักตัวเองเพื่อสังเกตอาการในที่พักอาศัยของท่าน จนครบ 14 วัน (สำหรับ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ให้รายงานตัวต่อที่ทำงานตัวเอง และตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทุกคน พร้อมทั้งให้คุมไว้สังเกตอาการ)
2. ตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อ ในผู้ปฏิบัติงานในห้องเย็นที่รับสินค้าจากสมุทรสาคร
3. ตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อ ในผู้ปฏิบัติงานในตลาดที่มีการขายอาหารทะเล
3.1 ตลาดเมืองใหม่ (22 ธ.ค. 63) 3.2 ตลาดคำเที่ยง-ป่าแพ่ง (21 ธ.ค. 63)
3.3 ชุมชนอุ่นอารี (23 ธ.ค. 63) 3.4 ชุมชนป่าแพ่ง
3.5 ตลาดวโรรส 3.6 ตลาดต้นลำไย
3.7 ตลาดสันป่าข่อย 3.8 ตลาดประตูเชียงใหม่
3.9 กาดก้อม 3.10 ตลาดต้นพะยอม
4. ตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อ ในผู้ปฏิบัติงานในร้านขายอาหารทะเล
5. ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดเสี่ยง (สมุทรสาคร) เข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ทุกช่องทาง (ท่าอากาศยานเชียงใหม่ สถานีขนส่งอาเขต และสถานีรถไฟเชียงใหม่) ให้แสดงตน และกรอกข้อมูลใน Application CM-CHANA เพื่อติดตามตัว และส่งข้อมูลให้พื้นที่ดำเนินการติดตามในการกักตัวเองเพื่อสังเกตอาการในที่พักอาศัยของท่าน
6. ให้เจ้าหน้าที่ทุกพื้นที่ ดำเนินการประชาสัมพันธ์ไทม์ไลน์ของผู้ป่วย และข้อมูลสถานการณ์ให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง
7. ให้กลุ่มงานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ประสานข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กรณีมีการประกาศเพิ่มพื้นที่ที่มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อน พร้อมแจ้งให้ทุกอำเภอทราบทันที
ขอเน้นย้ำให้ประชาชนทั่วไป ช่วยกันสอดส่องดูแล แจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ กรณีพบผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง(จังหวัดสมุทรสาคร)เข้ามาพักอาศัยในชุมชนของท่าน และขอให้ติดตามข้อมูลจากศบค. หรือจากหน่วยงานของรัฐ และปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรค ได้แก่ การใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงที่แออัด ล้างมือบ่อยๆ สแกนไทยชนะเมื่อเข้าสู่พื้นที่สาธารณะ ซึ่งจะเป็นมาตรการสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดโรค