"พิพัฒน์" เผยปี 64 รัฐบาลเล็งประกาศให้มีวันหยุดยาวทั้ง 12 เดือนกระตุ้นไทยเที่ยวไทย

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า รัฐบาลได้มีการหารือกันว่าในปี 2564 จะให้มีวันหยุดยาวสุดสัปดาห์ทุกเดือนเพื่อกระตุ้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ เช่น ในเดือน ก.พ.2564 อาจมีการประกาศให้วันตรุษจีนซึ่งตรงกับวันศุกร์ที่ 12 ก.พ.ปีหน้าเป็นวันหยุดเพื่อให้หยุดยาวติดต่อกัน 3 วันตั้งแต่วันที่ 12-14 ก.พ.2564 เป็นต้น

นอกจากนี้ในปี 2564 เมื่อสถานการณ์ระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 ซึ่งมีต้นตอจากกรณีสมุทรสาครจบลงแล้ว กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะเสนอให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) พิจารณาให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในไทยสามารถกักตัวแบบ “Area Quarantine” หรือกักตัวในบริเวณโรงแรมได้ กล่าวคือสามารถออกมานอกห้องพักได้ แต่ต้องอยู่ในบริเวณโรงแรมเท่านั้น โดยภาครัฐจะมีอุปกรณ์สายรัดข้อมือเพื่อติดตามตัวชาวต่างชาติที่เข้ารับการกักตัว เพื่อสร้างความสบายใจแก่คนในพื้นที่ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติคนนั้นๆ จะไม่หนีออกนอกโรงแรม

“ประเด็นเรื่อง Area Quarantine ถูกร้องขอมาจากผู้ประกอบการโรงแรมและรีสอร์ทหลายแห่งว่าในเมื่อ ศบค.อนุมัติให้ชาวต่างชาติสามารถกักตัวในสนามกอล์ฟ (Golf Quarantine) ได้ ก็น่าจะนำโมเดลนี้มาใช้กับการกักตัวในบริเวณโรงแรมได้เหมือนกัน เพราะจริงๆ แล้วตอนนี้ผู้ประกอบการโรงแรมมีความพร้อมกว่าเรื่องห้องพัก”

นอกจากนี้ต้องหาข้อสรุปร่วมกันอีกครั้งเกี่ยวกับจำนวนวันกักตัวที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เคยเสนอให้ลดวันกักตัวจาก 14 วันเหลือ 10 วัน ซึ่งทาง ศบค.เข้าใจว่าให้อยู่ในห้องพัก 10 วัน และอีก 4 วันอยู่ในบริเวณโรงแรม แต่ทาง สธ.ระบุว่าให้กักตัวเพียง 10 วัน จากนั้นให้ออกไปนอกสถานที่กักตัวได้เลย เมื่อยังเห็นไม่ตรงกัน จึงต้องไปหาข้อสรุปร่วมกันก่อน แต่เผอิญมีการระบาดรอบใหม่เกิดขึ้น การหารือเรื่องนี้จึงถูกพักไปก่อน

นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ (28 ธ.ค.) จะมีการเปิดให้ผู้ได้รับสิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกันจองสิทธิห้องพัก 1 ล้านสิทธิใหม่ หลังต้องเลื่อนจากกำหนดเดิมวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากพบพฤติกรรมต้องสงสัยของโรงแรมและร้านอาหารบางส่วนเข้าข่ายกระทำผิดเงื่อนไขโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นพฤติกรรมที่มักง่ายและคิดสั้นที่ทำลงไปแบบนั้น

และในวันพรุ่งนี้ (29 ธ.ค.) กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะมีการเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาโครงการ “เที่ยวไทยวัยเก๋า” ใช้งบประมาณ 5,000 ล้านบาทซึ่งถูกกันมาจากงบประมาณโครงการเราเที่ยวด้วยกันวงเงิน 20,000 ล้านบาท สำหรับการเจาะนักท่องเที่ยวกลุ่มสูงวัย อายุ 55-75 ปี จำนวน 1 ล้านคน วางเงื่อนไขการให้สิทธิประโยชน์แก่กลุ่มเป้าหมายว่าต้องมีการเดินทาง 2 คนขึ้นไปในวันอาทิตย์ถึงพฤหัสบดี โดยใช้บริการผ่านบริษัทนำเที่ยว เดินทาง 3 วัน 2 คืนขึ้นไป สนับสนุนค่าใช้จ่ายไม่เกิน 5,000 บาทต่อคน