‘เดลต้า’หายใจรดต้นคอ‘เอโอที’ท้าชิงเบอร์ 2 หุ้นไทย
เห็นราคาหุ้นบริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA แล้ว ก็ได้แต่อุปทานว่า “อะไรกันเนี่ย” ทำไมราคาหุ้นถึงวิ่งสู้ฟัดขนาดนี้ เล่นบวกวันละร้อยกว่าบาท แทบจะไม่เคยได้เห็นด้วยซ้ำในหน้าประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทย
หากใครยังนึกภาพไม่ออกลองย้อนดูราคาหุ้นปีนี้กันอีกสักครั้ง ประเดิมเปิดซื้อขายวันแรกของปี 2563 ที่ 53.50 บาท เท่ากับราคาปิดปี 2562 จากนั้นทรงตัวในกรอบ 50-60 บาท ก่อนที่จะเริ่มย่อตัวลงในเดือน มี.ค. ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้น
แต่หลังจากนั้นเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ประกอบกับผลประกอบงวดไตรมาส 2 ปี 2563 ที่ออกมาดีเกินคาด มีกำไรสุทธิ 2,021 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูล (Cloud Storage) และ ศูนย์ข้อมูล (Data Center) โตกระฉูด เพราะตั้งแต่เกิดโรคระบาด ทำให้ต้องหยุดอยู่บ้าน ทำงานที่บ้านกันมากขึ้น กลายเป็นปัจจัยสำคัญช่วยจุดพลุหุ้น DELTA พุ่งแรงติดจรวด
นอกจากนี้ บริษัทกระโดดมาทำสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (AC EV Charger) และ เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบเร็ว (DC EV Charger) เรียกว่าอินเทรนด์ล้อไปกับนโยบายรัฐที่เร่งสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
ขณะที่การมาของเทคโนโลยี 5จี ทำให้ความต้องการสินค้ากลุ่มพาวเวอร์ซัพพลายเพิ่มขึ้นไปอีก แถมล่าสุดมีข่าวว่าบริษัทที่ไต้หวันอยู่ระหว่างการคิดค้นอุปกรณ์ตรวจโควิด-19 ล้วนเป็นข่าวดีช่วยหนุนราคาหุ้น
เมื่อผลงานเข้าตาและเข้าเกณฑ์ ทำให้ DELTA เนื้อหอมสุดๆ ได้รับเลือกเข้าคำนวณในดัชนีสำคัญๆ ทั้ง MSCI Global Standard, FTSE SET Large-Cap Index รวมถึง ดัชนี SET50 และ SET100 รอบใหม่ ยิ่งช่วยเพิ่มเสน่ห์ความเนื้อหอมขึ้นไปอีก
โดยเฉพาะในฝั่งขาใหญ่ บรรดากองทุนทั้งหัวดำหัวทองต่างรุมตอมไล่เก็บหุ้นกันจ้าหละหวั่น! เพราะต้องลงทุนล้อไปกับดัชนีหลัก แว่วว่ากองไหนที่พลาดเก็บหุ้นไม่ทัน มาเวลานี้ต้องยอมควักกระเป๋าเคาะซื้อ “ทุกราคา” ไม่เช่นนั้นถือว่าตกขบวน
จนทำให้เกิดอภินิหารดันราคาหุ้นวิ่งทะลุขอบฟ้า จาก “หลักสิบ” พุ่งแตะ “หลักร้อย” จนอีกนิดก็จะถึง “หลักพัน” อยู่แล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าชั่วโมงนี้แนวต้านจะอยู่ตรงไหน?
แต่ที่แน่ๆ เวลานี้ DELTA กลายเป็นหุ้นเด้ง 1,000% ตัวใหม่ของตลาดหุ้นไทยไปแล้ว โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เรียกเสียงฮือฮาอีกครั้ง หลังบวกวันละร้อยกว่าบาทมา 2 วันติด เพราะใกล้ช่วงสิ้นปีจึงได้รับอานิสงส์จากการทำราคาปิดงวดบัญชี (Window Dressing) ของเหล่ากองทุนมาช่วยเสริมอีกแรง
และด้วยสภาพคล่อง (FreeFloat) ที่ต่ำมาก เคาะซื้อกันไปนานราคาวิ่งกระฉูดแล้ว โดยปิดเทรดล่าสุดรับวันคริสต์มาสที่ 684 บาท เพิ่มขึ้น 148 บาท หรือ 27.61% ระหว่างวันทำนิวไฮที่ 686 บาท
ส่งผลให้มาร์เก็ตแคปเวลานี้พุ่งพรวดมาอยู่ที่ 853,209 ล้านบาท เทียบกับต้นปี 64,552 ล้านบาท กลายเป็นหุ้นที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของตลาดหุ้นไทย แซงหน้าหุ้นค้าปลีกขวัญใจมหาชนอย่างบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ไปเป็นที่เรียบร้อย
ถ้าวัดกันที่ขนาดความใหญ่ DELTA กำลังไล่ตามบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ที่ครองแชมป์อันดับ 2 ซึ่งมีมาร์เก็ตแคป 892,856 ล้านบาทมาติดๆ ลองคำนวณเล่นๆ ถ้าเปิดมาวันนี้ (28 ธ.ค.) ราคา DELTA ยังไปต่อทะลุ 700 บาท โอกาสที่จะแซง AOT ไม่ใช่เรื่องยาก
แม้ DELTA จะบวกแรงวันละร้อยกว่าบาท แต่ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกมาคอนเฟิร์ม! ว่ายังไม่พบการซื้อขายที่ผิดปกติแต่อย่างใด แต่สำหรับนักลงทุนเวลานี้คงกล้าๆ กลัวๆ ไม่รู้ว่าจะมีแรงไปต่อได้อีกมากน้อยแค่ไหน? จะหมดรอบแล้วหรือยัง? ซึ่งก็เป็นเรื่องของอนาคตยากที่จะคาดเดา
แต่บอกได้แค่เพียงว่า “ใดๆ ในโลกล้วนไม่จีรังยั่งยืน” ดังนั้น ราคาหุ้นเมื่อ “ขึ้นแรง” ก็มีโอกาส “ลงแรง” ได้ด้วยเช่นกัน