‘25th Amendment’ ไพ่ตายเขี่ย ‘ทรัมป์’ ตกเก้าอี้
เปิดเงื่อนไขการใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 (25th Amendment) ของสหรัฐ ในการเขี่ย "โดนัลด์ ทรัมป์" พ้นเก้าอี้ประธานาธิบดี และให้รองประธานาธิบดีรักษาการแทน หลังผู้นำสหรัฐถูกมองว่าปลุกปั่นผู้ประท้วงขวางการรับรองชัยชนะ "โจ ไบเดน" ของคองเกรส
ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เหลือวาระดำรงตำแหน่งอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ แต่ด้วยความที่เขาแทบไม่มีกำหนดการราชการมานานหลายสัปดาห์แล้ว ทำให้มีรายงานจากสื่อหลายสำนักว่า คณะรัฐมนตรีของทรัมป์กำลังแอบหารือเรื่องการปลดเขาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่เหมาะสมที่จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ตามบทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 25 (25th Amendment)
เมื่อวันที่ 6 ม.ค. เกิดสถานการณ์ความรุนแรงและความวุ่นวายอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ เมื่อมวลชนฝ่ายสนับสนุนทรัมป์ ผู้นำคนปัจจุบัน บุกเข้าไปภายในอาคารรัฐสภา เพื่อขัดขวางการประชุมใหญ่ของสภาคองเกรส ในการรับรองมติของคณะผู้เลือกตั้งให้ โจ ไบเดน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คนจากเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่รักษากฎหมาย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: คองเกรสรับรอง ‘ไบเดน’ นั่งปธน.สหรัฐคนที่ 46
จากเหตุการณ์อุกอาจนี้ ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า “มีความเป็นไปได้หรือไม่” ที่รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ จะใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ ปลดประธานาธิบดีออกจากตำแหน่ง โดยอาศัยขั้นตอนตามที่ระบุอยู่ในบทบัญญัติของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 25 ในเมื่อการใช้อำนาจอีกครั้งของฝ่ายนิติบัญญัติเพื่อถอดถอนทรัมป์เป็นครั้งที่ 2 อาจไม่ทันเวลา เนื่องจากทรัมป์มีเวลาอยู่ในตำแหน่งอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์
“การจงใจยั่วยุให้เกิดความรุนแรงและความวุ่นวายในสังคมของประธานาธิบดีทรัมป์เพื่อพลิกผลการเลือกตั้งด้วยกำลังตรงตามเกณฑ์นี้อย่างชัดเจน” ส.ส.พรรคเดโมแครตทุกคนในคณะกรรมาธิการระบบศาลยุติธรรมสภาผู้แทนราษฎร ระบุในจดหมายถึงรองประธานาธิบดีเพนซ์
เว็บไซต์ CNN อ้างข้อมูลจากแกนนำพรรครีพับลิกันที่ยืนยันว่า มีการหารือเรื่องการใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 25 จริง และส่วนใหญ่มองว่า ทรัมป์มีพฤติกรรมเข้าขั้น “กู่ไม่กลับ” แล้ว
มาร์กาเร็ต เบรนแนน ผู้สื่อข่าว CBS รายงานว่า “ยังไม่มีข้อเสนอใด ๆ อย่างเป็นทางการ” ถึงรองประธานาธิบดีเพนซ์ ขณะที่ แคทเธอรีน โฟลเดอร์ส ผู้สื่อข่าวจาก ABC อ้างแหล่งข่าวที่ยืนยันว่า เริ่มมีการเอ่ยถึงทางเลือกในการปลดทรัมป์จริง
แล้วบทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 25 (25th Amendment) กำหนดไว้ว่าอย่างไร?
บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 25 เกี่ยวกับการสืบทอดตำแหน่งประธานาธิบดี (Succession to Office of President) โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการสืบทอดอำนาจของประธานาธิบดีโดย “รองประธานาธิบดี” ไม่ใช่ “ผู้ดำรงตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดี” ในกรณีที่ประธานาธิบดีถึงแก่อสัญกรรม ลาออก ถูกถอดถอน หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น ล้มป่วยหนัก
กล่าวคือ กรณีประธานาธิบดีถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง เสียชีวิต หรือลาออก ให้รองประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแทน และบทบัญญัติดังกล่าวกำหนดรายละเอียดไว้ 4 ข้อดังนี้
ข้อ 1. ในกรณีที่ประธานาธิบดีถูกถอดออกจากตําแหน่ง หรือตาย หรือลาออก ให้รองประธานาธิบดีดํารงตําแหน่งประธานาธิบดีสืบแทน
ข้อ 2. เมื่อใดตําแหน่งรองประธานาธิบดีว่างลง ให้ประธานาธิบดีเลือกรองประธานาธิบดีขึ้นคนหนึ่ง เสนอต่อรัฐสภา เมื่อสภาทั้งสองแห่งรัฐสภาลงคะแนนเสียงข้างมากอนุมัติ จึงให้ดํารงตําแหน่งได้
ข้อ 3. เมื่อใดประธานาธิบดีแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรต่อประธานชั่วคราวของวุฒิสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า ตนไม่สามารถจะใช้อํานาจและปฏิบัติหน้าที่ในตําแหน่งประธานาธิบดีได้ ให้รองประธานาธิบดีใช้อํานาจและปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรักษาการแทนประธานาธิบดีจนกว่าประธานาธิบดีจะแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรต่อประธานสภาทั้งสองกลับความที่แจ้งไว้ก่อน
ข้อ 4. เมื่อใดรองประธานาธิบดีและเสียงข้างมากของคณะรัฐมนตรีหรือของหน่วยงานอื่นที่รัฐสภากําหนดไว้ตามกฎหมาย แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรต่อประธานชั่วคราวของวุฒิสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า ประธานาธิบดีไม่สามารถที่จะใช้อํานาจและปฏิบัติหน้าที่ในตําแหน่งของตน ให้รองประธานาธิบดีเข้าใช้อํานาจและปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรักษาการในตําแหน่งประธานาธิบดีทันที
หลังจากนั้น เมื่อประธานาธิบดีแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรต่อประธานชั่วคราวของวุฒิสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรว่าตนไม่มีความสามารถปรากฏอยู่แล้ว ให้ประธานาธิบดีกลับมาใช้อํานาจและปฏิบัติหน้าที่ในตําแหน่งของตนอีกจนกว่ารองประธานาธิบดีและเสียงข้างมากของคณะรัฐมนตรีหรือหน่วยงานอื่นที่รัฐสภากําหนดไว้ตามกฎหมาย แจ้งไว้เป็นลายลักษณ์อักษรต่อประธานชั่วคราวของวุฒิสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 วันว่า ประธานาธิบดีไม่สามารถใช้อํานาจและปฏิบัติหน้าที่ในตําแหน่งได้ ให้รัฐสภาวินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องนี้ โดยเรียกประชุมภายใน 48 ชั่วโมงเพื่อการนี้ หากไม่อยู่ระหว่างสมัยประชุม
หากรัฐสภามีมติด้วยคะแนนเสียง 2 ใน 3 ของทั้งสองสภาภายใน 21 วัน หลังจากรับแจ้งเป็นลายลักษณ์ อักษรจากบุคคลคณะหลัง หรือหากภายใน 21 วัน หลังจากการเรียกประชุมในกรณีที่ไม่อยู่ในระหว่างสมัยประชุมว่า ประธานาธิบดีไม่สามารถใช้อํานาจและปฏิบัติหน้าที่ในตําแหน่งของตนได้ ให้รองประธานาธิบดีคงปฏิบัติหน้าที่รักษาการในตําแหน่งประธานาธิบดีต่อไป ในกรณีที่เป็นอย่างอื่นให้ประธานาธิบดีกลับมาใช้อํานาจและปฏิบัติหน้าที่ในตําแหน่งของตนอีกครั้ง
สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 25 เกิดขึ้นระหว่างปี 2508-2510 และได้รับการให้สัตยาบันปี 2510 สืบเนื่องจากเหตุลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี ถึงแก่อสัญกรรม เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2506 ก่อนหน้านั้นคือการที่ประธานาธิบดีดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ มีอาการหนักจากโรคหัวใจกำเริบ