'บางจาก' เล็งขยายสาขากาแฟอินทนิลเพิ่มใน สปป.ลาว

นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า ในปี 2564 บางจากฯ มีแผนขยายสาขาร้านกาแฟอินทนิลต่างประเทศเพิ่มเติม โดยเฉพาะในสปป.ลาว ที่ปัจจุบัน มีเปิดดำเนินการเพียง 1 สาขาเท่านั้น ที่เป็นลักษณะมอบสิทธิมาสเตอร์แฟรนไชส์ (Master Franchise) จึงมีโอกาสที่จะขยายเพิ่ม 3-5 สาขา แต่ยังต้องประเมินสภาพของตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภค รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย

“ลาว การทำธุรกิจจะหนักกว่าเรื่องของดีมานด์น้ำมัน และร้านกาแฟในไทย แต่เป็นเรื่องการตลาดของเขา ซึ่งพอเดินทางเข้าไปไม่ได้ ก็ศึกษาตลาดยาก จึงต้องรอให้เดินทางเข้าไปได้ก่อน แล้วกลับมาทำแผนต่างๆอีกที ส่วนพันธมิตรมาสเตอร์แฟรนไซส์ ที่ได้รับสิทธิไป เขาตั้งใจจะทำร้านให้ดีก่อน และก็มีแผนขยายเพิ่ม แต่ทุกอย่างก็ต้องเบรกไว้ก่อนหลังเกิดโควิด สถานการณ์แบบนี้ เราก็ต้องยืดหยุ่น ถ้าเข้มยึดตามสัญญาก็จะโหดร้ายไป"

ส่วนในกัมพูชา ปัจจุบัน มีร้านกาแฟอินทนิล ประมาณ 7 สาขา ซึ่งก็ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นกัน โดยเฉพาะสาขาที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าก็มีปิดให้บริการลงชั่วคราวตามการประกาศปิดให้บริการศูนย์การค้า ฉะนั้น การจะเข้าไปทำตลาดเพิ่มเติมก็ยังต้องรอให้สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายก่อนเช่นกัน

ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นปี 2561 บางจากฯ ได้ลงนามสัญญา การมอบสิทธิมาสเตอร์แฟรนไชส์ (Master Franchise) ร้านกาแฟอินทนิลในประเทศกัมพูชาและลาว ระหว่าง บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด และบริษัท อาร์ซีจี รีเทล (กัมพูชา) จำกัด โดยก่อนหน้านี้ บางจากฯ ตั้งเป้าหมายมีแผนขยายร้านกาแฟอินทนิลในทั้ง 2 ประเทศกว่า 100 สาขา

นายสมชัย กล่าวอีกว่า สำหรับธุรกิจร้านกาแฟอินทนิลในประเทศไทย ถือว่าเป็นธุรกิจที่ปรับตัวได้ดี โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ช่วงมี.ค.-เม.ย. 2563 ที่หันมาขายผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้สามารถรักษายอดขายได้

บางจากฯ ตั้งเป้าหมายจะขยายสาขาร้านกาแฟอินทนิล เพิ่มเป็น 1,200 สาขาภายใน 5ปี (2564-2568) จากสิ้นปี 2563 มีอยู่ 690 สาขา หรือ จะต้องเปิดเพิ่มอีก 500 สาขาภายในปี 2568ในอนาคตยังมองโอกาสศึกษาที่จะเข้าไปถึงธุรกิจต้นน้ำของกาแฟเมื่อสามารถผลักดันการขยายร้านกาแฟอินทนิลครบ 1,000 สาขา

สำหรับปี2564 บางจากฯ ตั้งงบลงทุนกลุ่มธุรกิจการตลาด ในปี 2564 อยู่ที่ 1,500 ล้านบาท สำหรับขยายสถานีบริการน้ำมัน(ปั๊ม)ใหม่ จำนวน 100 แห่ง จากสิ้นปี 2563 มีจำนวนปั๊ม อยู่ที่ 1,240 แห่ง และเพิ่มเป็น 1,400 แห่งภายใน 5ปี (ปี2568)รวมถึงขยายการเติบโตในธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (นอนออยล์) ซึ่งในส่วนของร้านสะดวกซื้อจะมีความร่วมมือกันพันธมิตรรายใหม่ๆเพิ่มเติม