พาณิชย์ ชี้ข้อตกลง BREXIT ทำไทยได้ลดภาษีรวม1,524 รายการจากยูเค

พาณิชย์ ชี้ข้อตกลง BREXIT ทำไทยได้ลดภาษีรวม1,524 รายการจากยูเค

สนค.เผยผลวิเคราะห์ BREXIT ชี้สหราชอาณาจักร ลดภาษีสินค้าเพิ่มอีก 700 กว่ารายการ รวมของเก่าอีก 700 รายการทำไทยได้ลดภาษีรวม 1,524 รายการ พร้อมเดินหน้าเจรจาเอฟทีเอ 

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยสถานการณ์เบร็กซิทว่า ตามที่สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป (อียู) ได้บรรลุข้อตกลงการค้าและความร่วมมือ (EU-UK Trade and Cooperation Agreement) ระหว่างกัน เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2563 และสองฝ่ายได้ลงนามข้อตกลงการค้าฯ แล้วนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการให้สัตยาบันจากรัฐสภายุโรป ซึ่งคาดว่าจะประชุมภายในเดือนก.พ. 2564 ในส่วนของสหราชอาณาจักรได้ให้สัตยาบันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สำหรับอัตราภาษีนำเข้าของสหราชอาณาจักรหลังเบร็กซิท หลังจากวันที่ 1 ม.ค. 2564 ผู้ส่งออกสินค้าไปยังสหราชอาณาจักรจากประเทศที่ไม่มีข้อตกลงทางการค้า จะต้องใช้อัตราภาษีนำเข้าของสหราชอาณาจักร (UK Global Tariff: UKGT) แทนอัตราภาษีภายใต้กรอบเดิมของอียู (Common External Tariff: EU CET) เป็นครั้งแรกในรอบ 50 กว่าปี

โดยอัตราภาษี UKGT สหราชอาณาจักรได้พิจารณาปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของประเทศ สนับสนุนธุรกิจในประเทศให้มีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น ซึ่งสหราชอาณาจักรได้ลดอัตราภาษีแก่สินค้าอุปโภคบริโภค ของใช้ในครัวเรือน สินค้าที่เป็นปัจจัยการผลิตในห่วงโซ่อุปทาน และสินค้าที่สหราชอาณาจักรไม่สามารถผลิตได้เอง รวมถึงสินค้าที่สนับสนุนอุตสาหกรรมสีเขียว (เช่น ขวดสุญญากาศ หลอดไฟ LED เป็นต้น) นอกจากนี้ สหราชอาณาจักรยังได้ยกเว้นอัตราภาษีนำเข้าชั่วคราวแก่สินค้ายาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ใช้ป้องกันโรคโควิด-19

161035101449

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยจะได้ประโยชน์จากโครงสร้างอัตราภาษีใหม่ของสหราชอาณาจักร เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมมากขึ้น (Fair Competition) และทำให้เกิดการค้ากันมากขึ้น (Trade Creation) สินค้าไทยจะได้รับประโยชน์จากอัตราภาษีใหม่ของสหราชอาณาจักรที่มีการยกเว้นอัตราภาษี เพิ่มขึ้นจำนวน 732 รายการ จากตารางภาษีเดิมของอียูที่ยกเว้นอัตราภาษีจำนวน 792 รายการ ทำให้สินค้าไทยได้รับการยกเว้นอัตราภาษีทั้งหมด 1,524 รายการ สินค้าสำคัญที่ UK นำเข้าจากไทยและได้ประโยชน์จากภาษีนำเข้าที่ลดลง ได้แก่ ไก่แปรรูป ถุงมือยาง รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องเพชรพลอย ซอสปรุงรส อาหารสัตว์เลี้ยง เป็นต้น (ตารางแนบท้าย)     
161035082715

กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญต่อการเจรจาจัดทำความตกลงทางการค้า (FTA) ระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักร โดยมีการศึกษาประโยชน์และผลกระทบจากการจัดทำ FTA กับสหราชอาณาจักร เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการเจรจาในอนาคต ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรมีเป้าหมายจะมุ่งหาพันธมิตรทางการค้าใหม่ เพื่อให้ครอบคลุมร้อยละ 80 ของสัดส่วนการค้าทั้งหมด ภายในระยะเวลา 3 ปี ตามนโยบายมุ่งสู่ภูมิภาคเอเชีย All of Asia ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกให้ไทยเป็นเป้าหมายดึงดูดการทำข้อตกลงทางการค้าที่สำคัญ ถ้าหากไทยบรรลุข้อตกลง FTA กับสหราชอาณาจักร จะทำให้ไทยมีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้นเทียบกับคู่แข่ง เกิดการสร้างการค้าเพิ่มขึ้นในกลุ่มสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป อัญมณี เครื่องเงิน เครื่องนุ่งห่ม ชิ้นส่วนยานยนต์ ยางรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
ทั้งนี้ ในช่วงเวลา 11 เดือนแรกของปี 2563 สหราชอาณาจักรเป็นตลาดส่งออก อันดับที่ 20 ของไทย (เปรียบเทียบในภูมิภาคยุโรป รองจากสวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี) มีมูลค่าการส่งออก 2,828 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วน 1.3% ของการส่งออกทั้งหมด หดตัว 20.8% ไทยนำเข้าจากสหราชอาณาจักร มูลค่า 1,643 ล้านดอลลาร์ หดตัว 26.7% และเกินดุลการค้ามูลค่า 1,185 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเกินดุลการค้าลดลง10.8%