เลียบริมเมยส่องบ่อน‘เมืองเมียวดี’ แหล่ง‘นักพนันไทย’ติดโควิด

การติดเชื้อ ‘โควิด-19’ ของคนไทยภายในประเทศขณะนี้ ปัญหาคงไม่ได้อยู่ที่ขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายเหมือนช่วงแรกๆ ที่ทำให้ ‘จังหวัดสมุทรสาคร’ กลายเป็นจุดแพร่เชื้อที่ใหญ่ที่สุด ก่อนจะลามไปยังพื้นที่อื่นๆอีกหลายจังหวัดของไทย

จน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งตั้งคณะกรรมการ โดยมี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม เป็นประธาน สอบสวนดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับ เจ้าหน้าที่รัฐ ตำรวจ ทหาร และพลเรือน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการนำพาแรงงานเถื่อนเข้าประเทศ ควบคู่กับมาตราการเข้มงวดของ 7 กองกำลังป้องกันชายแดน จนทำให้ปัญหาดังกล่าวส่างซาไป

แต่ปัญหาใหม่ที่ตามมาคือ ‘คนไทย’ ลักลอบข้ามฝั่งไป ‘เล่นการพนัน’ รวมถึงกลุ่มที่ไปทำงานใน
ในบ่อนกาสิโนฝั่งเมียนมาที่กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาด‘โควิด-19’ เข้าขั้นวิกฤติ จนทำให้ติดเชื้อและขอกลับเข้ามารักษาตัวในประเทศ จนกลายเป็นภาระระบบสาธารณสุขในพื้นที่ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทหาร ต้องจัดรถไปรับกลับมาดูแล โดยมีข้อกังวลเรื่องความเสี่ยงจะแพร่เชื้อไปยังคนใกล้ชิด

เช่นเดียวกับพื้นที่ในหลายตำบลของ อ.แม่สอด จ.ตาก ที่กำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ เพราะมีชายแดนติดต่อกับเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา โดยมีแม่น้ำเมยเป็นเขตกั้นตลอดแนว เชื่อมด้วยสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ซึ่งนอกจากจะเป็นตลาดการค้าชายแดนที่สำคัญแห่งหนึ่งแล้ว ยังเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน

จึงไม่แปลกที่ ‘เมืองเมียวดี’ จะเต็มไปด้วยนักลงทุนที่เป็นทั้ง ‘คนไทย-จีน-เมียนมา’ สร้างโรงแรม ห้างสรรพสินค้า และบ่อนกาสิโนทั้งขนาดใหญ่และเล็กมากกว่า 10 แห่ง บริการแบบครบวงจร ตั้งในพื้นที่ใกล้เคียงกันและลูกค้าที่มาใช้บริการส่วนใหญ่ 90% คือคนไทย

ก่อน ‘โควิด-19’ระบาดเมื่อต้นปี 2563 พบข้อมูลคนไทยข้ามฝั่งไปเล่นการพนันในเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา วันละไม่ต่ำกว่า 1,000 คน ส่วนใหญ่เลือกใช้ช่องทางธรรมชาติ ‘เข้า-ออก’ โดยมีเจ้าของบ่อนคอยอำนวยความสะดวกจัดรถตู้มารับถึงชายแดน ควบคู่กับเคลียร์เส้นทางกับเจ้าหน้าที่ฝั่ง‘ไทย-เมียนมา’เพื่อเปิดทาง

แต่หลังจาก ‘โควิด-19’ ระบาดการลักลอบ ‘เข้า-ออก’ผ่านช่องทางธรรมชาติ ทำได้ยากขึ้น เจ้าหน้าที่รัฐที่เคยรู้เห็นเป็นใจ ก็ต้องระวังตัว เมื่อรัฐบาลออกมาตราการเข้มงวดกวดขันปิดพื้นที่ตามแนวชายแดนทั้งหมด จึงส่งผลให้การลักลอบเล่นการพนันลดลง แต่ยังมีบางส่วนเล็ดลอดออกไปได้ แต่หาทางกลับเข้ามาไม่ได้ เมื่อติดเชื้อจึงประสานเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยขอกลับมารักษาตัวและยอมถูกดำเนินคดี

บ่อนกาสิโนยอดฮิต ที่นักพนันฝั่งไทย นิยมไปใช้บริการ ส่วนใหญ่จะมีนักลงทุนคนไทยเข้าไปมีหุ้นส่วนและที่ขึ้นชื่อสุด ‘แจ๊คดราก้อนไนท์’ ที่บ้านสวนอ้อย เมืองเมียวดี อยู่ห่างจากท่าข้ามริมเมย 1 คลัง 4 บ้านห้วยม่วง ม.6 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด เพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น

ถัดมาคือ 2 กาสิโน ที่มีพื้นที่ติดกันคือ ‘เมียวดี กาแล็คซี่’ และ ‘เฮงเซง เอนเตอร์เทนเมนท์ แอนด์ รีสอร์ต’ ที่บ้านจุนคอ เมียวดี ด้านตรงข้ามพระธาตุคอกช้างเผือก บ้านท่าอาจ ม.3 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด รวมถึง ‘เมียวดี คอมเพล็กซ์’ บ้านซานเจ็กเพียว ตรงข้ามท่า 10 คลัง 7 บ้านท่าอาจ ม.3 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด

นอกจากนี้ ยังมีกาสิโนที่มีคนไทยเข้าไปใช้บริการประปลาย เช่น "โก๊กโก่ รีสอร์ต" บ้านซุ่ยโก๊กโก่ ตรงข้ามท่า 23 คลัง 23 บ้านวังแก้ว ต.แม่กาษา อ.แม่สอด และ “โก๊กโก่ทอง” ตรงข้ามบ้านวังผา ม.4 ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด-บ้านใหม่ริมเมย ม.10 ต.แม่กาษา อ.แม่สอด และบ้านวังแก้ว ม.4 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด

สอดคล้องกับที่ พล.ท.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 ยอมรับว่า มีคนไทยในเมียนมาร้องขอกลับเข้าประเทศเป็นจำนวนมาก และมีความกังวลว่าติดเชื้อโควิด-19 และบางส่วนรู้ตัวว่าติดเชื้อแล้ว จะเข้ามารักษาตัวใน อ.แม่สอดจ.ตาก ประมาณหลักร้อยคน โดยเบื้องต้นสาธารณสุขจังหวัดยืนยันว่าหากเป็นคนไทยก็จะต้องรับตัวมารักษา ก่อนจะดำเนินคดีเมื่อรักษาหายเป็นปกติ

สำหรับคนไทยที่หลบหนีเข้าเมือง หรือการเดินทางเข้าประเทศผ่านทางช่องทางธรรมชาติ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท

แต่ในสถานการณ์ ‘โควิด-19’ ระบาด จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอีก 2 ฉบับคือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ที่กำหนดให้คณะกรรมการควบคุมโรค ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ใช้อำนาจออกข้อกำหนด คำสั่ง ระเบียบต่างๆ หากฝ่าฝืน โทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท

ส่วนผู้ใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลือให้มีการข้ามแดนเข้ามา หรือ ข้ามแดนออกไประวังโทษจำคุก 10 ปี ปรับ 100,000 บาท สำหรับบุคคลใดที่ซ่อนเร้นนำพา มีโทษจำคุก 10 ปี ปรับ 50,000 บาท
 

ยามนี้โทษอาญา และโทษปรับ กลายเป็นเรื่องที่คนข้ามไปข้ามมา กลัวน้อยกว่าโควิด และที่สุดรัฐบาลไทยก็ต้องดูแลกันไป ตราบใดที่บ่อน กาสิโน ยังเป็นแหล่งทำมาหากินของคนไทยจำนวนไม่น้อย