‘จีน’ ล็อกดาวน์ 'เฮย์หลงเจียง' 2 เมืองคุมโควิด
"จีน" ประกาศล็อกดาวน์เพิ่ม 2 เมืองใน "เฮย์หลงเจียง" และเมืองฉือเจียจวง ในเหอเป่ยเพิ่มอีก หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูง
มณฑลเฮย์หลงเจียง ประเทศจีน ได้ประกาศล็อกดาวน์ 2 เมืองในวานนี้ (12 ม.ค.) หลังจากพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 36 รายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ส่วนเทศบาลเมืองหลางฟาง ซึ่งตั้งอยู่ในมณฑลเหอเป่ย ใกล้กับกรุงปักกิ่ง ได้สั่งให้ประชาชนในเมืองซึ่งมีอยู่เกือบ 5 ล้านคน อยู่แต่ในบ้านเป็นเวลา 7 วัน พร้อมกับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่เข้มงวด
มีรายงานว่า เมืองฉือเจียจวง ซึ่งตั้งอยู่ในมณฑลเหอเป่ย และมีพลเมือง 11 ล้านคน ได้ประกาศล็อกดาวน์ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เมืองฉือเจียจวงรายงานการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 39 ราย และเมืองหลางฟางพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อในมณฑลเหอเป่ยพุ่งขึ้นสู่ระดับกว่า 500 ราย
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) เปิดเผยว่า ทีมผู้เชี่ยวชาญของ WHO จะเดินทางถึงจีนในสัปดาห์นี้ เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนต้นกำเนิดไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศ หลังจากที่จีนถูกวิพากษ์วิจารณ์จากหน่วยงานด้านสุขภาพและประเทศอื่นๆ ว่าขาดความโปร่งใสในการติดตามหาต้นกำเนิดของเชื้อไวรัส
รายงานระบุว่า ทีมจาก WHO จะเดินทางมาถึงประเทศจีน ในวันที่ 14 ม.ค. ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจาก ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO กล่าวตำหนิจีนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมแสดงความผิดหวังที่รัฐบาลจีนยังไม่อนุญาตให้ทีมผู้เชี่ยวชาญเดินทางเข้าประเทศ
การตรวจสอบที่มาของเชื้อโควิด-19 จะดำเนินการร่วมกันระหว่างนักวิทยาศาสตร์ชาวจีนและทีมผู้เชี่ยวชาญของ WHO แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าผู้เชี่ยวชาญภายนอกจะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าเมืองอู่ฮั่นหรือไม่
อย่างไรก็ตาม จีนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าพยายามปกปิดการแพร่ระบาด ซึ่งส่งผลให้ประเทศอื่นๆ มีเวลารับมือน้อยลง ขณะที่สื่อของรัฐบาลจีนและเจ้าหน้าที่ต่างสนับสนุนทฤษฎีที่ว่าเชื้อไวรัสไม่ได้มีต้นตอมาจากจีน แต่ถูกนำเข้ามาจากประเทศอื่น