'อนุทิน' เผยรัฐบาลจัดงบฉุกเฉิน 96 ล้าน ช่วยจังหวัดตาก รับโควิด-19
"อนุทิน" เผยรัฐบาลจัดงบประมาณฉุกเฉิน 96 ล้านบาท สนับสนุนการทำงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข ช่วยจังหวัดตากรับมือโควิด-19
เมื่อวันที่ 14 ม.ค.64 ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมในการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 "โควิด-19" ระลอกใหม่ในพื้นที่ จ.ตาก พร้อมกันนี้ นายอนุทิน ได้นำชุด Cover All 1,400 ชุด แอลกอฮอล์เจล 5,000 ชิ้น หน้ากาก N95 1,200 ชิ้น หน้ากากอนามัย 20,000 ชิ้น ไปมอบเพื่อใช้งานในพื้นที่
นายอนุทินกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยสถานการณ์โควิดในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ฝากแสดงความห่วงใยและความปรารถนาดีและส่งกำลังใจ ถึงทีมแพทย์พยาบาลผู้ปฏิบัติหน้าที่ การที่ลงพื้นที่วันนี้นอกจากจะมาเห็นสภาพที่แท้จริงของการทำงานแล้วยังมาให้กำลังใจ เนื่องจากพื้นที่แม่สอด จ.ตาก เป็นหน้าด่านชายแดน การป้องกันโรครวมถึงควบคุมโรคในพื้นที่จึงความสำคัญอย่างยิ่ง รัฐบาลจึงได้จัดสรรงบประมาณฉุกเฉินเพื่อจัดหาเวชภัณฑ์ ครุภัณฑ์ต่างๆ อาทิ เครื่องช่วยหายใจ เครื่องกระตุกหัวใจ รถฉุกเฉิน รถพยาบาล เตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เป็นต้น มูลค่าประมาณ 96 ล้านบาท เพื่อให้การดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข ป้องกัน ควบคุมโรคในพื้นที่
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า จังหวัดตากพบรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มพบการผู้ติดเชื้อที่ จ.ตากในระลอกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2563 ส่งผลให้ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อสะสม 100 ราย ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 85 ราย ชาวเมียนมา 15 ราย ซึ่งผู้ติดเชื้อในระลอกใหม่ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ติดเชื้อมาจากบ่อนคาซิโนในประเทศเมียนมา ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง และพื้นที่ได้เข้มงวดมาตรการเฝ้าระวังพื้นที่ชายแดนป้องกันผู้ลักลอบเข้าประเทศ รวมถึงให้คนไทยจากฝั่งเมียนมาแจ้งความประสงค์เดินทางกลับประเทศ ที่สำคัญขอให้เข้ามาอย่างถูกกฎหมายและรับการกักตัวเฝ้าระวังอาการตามกระบวนการสาธารณสุข เพื่อเป็นการป้องกันควบคุม และสกัดกั้นโรคโควิด-19 ไม่ให้มาแพร่สู่คนในประเทศ เป็นการช่วยประเทศชาติได้ทางหนึ่ง เราพร้อมจะดูแลรักษาคนไทยอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายสาธารณสุขจะต้องระดมสรรพกำลัง ตื่นตัว และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่อยู่เสมอ
“พวกเราทำหน้าที่อย่างทุ่มเทไม่มีภารกิจใดสำคัญไปกว่าบ้านเมือง ขอให้มั่นใจว่าหากเรามีความพร้อม ความตื่นตัว ใส่ใจภารกิจ จะไม่มีคำว่าแพ้ ผมมั่นใจในความทุ่มเทของบุคลากรทางการแพทย์ของทุกคน” นายอนุทินกล่าว