'เราชนะ' รับเงินเยียวยา 7,000 กรณี บัตรคนจน และ คนละครึ่ง เช็คอัพเดทรอเลย
โครงการ "เราชนะ" รับเงินเยียวยา 7,000 กรณี บัตรคนจน และ คนละครึ่ง มีอะไรอัพเดทบ้าง เช็คเลย!!
เกี่ยวกับโครงการ "เราชนะ" ซึ่งเป็นมาตรการเยียวยาโควิดรอบ 2 โดยกระทรวงการคลังที่เยียวยาประชาชน ผู้ได้รับผลกระทบกับสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ที่หลายคนกำลังให้ความสนใจขณะนี้
“กรุงเทพธุรกิจออนไลน์” ถือโอกาสรวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับโครงการเราชนะมาฝากกัน
เริ่มจาก รายละเอียดของโครงการที่จะแจกเงินเยียวยา 3,500 บาท จำนวน 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.64) เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนทั่วไป อาชีพอิสระ พ่อค้าแม่ขาย วินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ ให้ครอบคลุมตรงจุดที่สุด คาดว่าประมาณ 30-35 ล้านคน หลังจากนั้นจะเปิดให้ผู้ที่เข้าเกณฑ์ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- 'เราชนะ' ลงทะเบียน รับเงินเยียวยาโควิด 7,000 รู้แล้วบอกต่อง่ายนิดเดียว
- 'คลัง' เจาะเงินฝากคัดสิทธิ 'เราชนะ' กันกลุ่มอิสระรายได้สูงออก
- สรุปครบ! มาตรการช่วยลูกหนี้ 7 สถาบันการเงิน ‘เยียวยาโควิด’ รอบใหม่
- ประกันสังคม ม.33 ม.39 ม.40 ต่างกันยังไง 'โควิดรอบใหม่' ได้ 'เยียวยา' อะไรบ้าง?
- ‘เราชนะ’ คำต่อคำ! ขุนคลังเคลียร์ชัด ลงทะเบียนยังไง ใครได้บ้าง
ซึ่งในเบื้องต้น 4 กลุ่มที่จะไม่ได้เข้าโครงการนี้ คือ 1.ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ พนักงานรัฐวิสาหกิจ
2.ผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
3.ผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 และ
4.ผู้ที่มีรายได้สูง โดยจะมีการกำหนดเกณฑ์ของรายได้อีกครั้ง ซึ่งจะประเมินจากฐานเงินเดือนและบัญชีเงินฝาก
สำหรับคนที่เคยลงทะเบียนโครงการเยียวยาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น "โครงการคนละครึ่ง-บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" นับเป็นข่าวดีเพราะได้สิทธิ์เข้าร่วมโครงการ ”เราชนะ” ด้วย
โครงการคนละครึ่ง จำนวน 15.3 ล้านคน หากพบว่าเป็นผู้มีรายได้น้อย คุณสมบัติเข้าเกณฑ์ก็จะได้รับเงินผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" แต่จะมีการเบิกจ่ายเป็นเงินสด หรือเก็บไว้ใช้กับโครงการคนละครึ่งนั้น ต้องรอให้มีความชัดเจนในวันอังคารที่ 19 ม.ค.64
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน จำนวน 14 ล้านคน โดยหลักการแล้วน่าจะได้รับเงินทั้งหมด จะเติมเงินเข้าไปให้ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐโดยอัตโนมัติ
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 โครงการมีจำนวนผู้ที่ได้รับสิทธิ์เกือบ 30 ล้านคน กระทรวงการคลังจะมีวิธีการคัดกรองอย่างไร หรือไม่ คงต้องติดตามความชัดเจนต่อไป