ม.หอการค้าไทย แนะ 'เราชนะ' ควรใช้กับร้านค้าเหมือน 'คนละครึ่ง' ต่อลมหายใจเอสเอ็มอี
"ธนวรรธน์" แนะโครงการ "เราชนะ" ควรใช้กับร้านค้าเหมือน "คนละครึ่ง" เพื่อก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ช่วยต่อลมหายใจให้เอสเอ็มอี
เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 64 นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิบดีการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ทางศูนย์ฯได้ประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 1/2564 ที่มาตรการล็อกดาวน์ไม่เข้มข้น อยู่ที่ 1.5-2 แสนล้านบาท ซึ่งรัฐบาลก็ได้พยายามใส่เงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ในจำนวนเท่าที่เท่ากับหรือมากกว่าตัวเลขความเสียหายทางเศรษฐกิจ ก็จะช่วยพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ย่ำแย่ลง
ทั้งนี้ โครงการคนละครึ่ง มีประสิทธิภาพมากที่ทำให้เงินเกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ช่วยเหลือธุรกิจขนาดลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และทำให้เกิดการจ้างงาน แต่ด้วยโครงการคนละครึ่งยังไม่ถึงระยะเวลาสิ้นสุดโครงการ และยังมีสิทธิคงค้างอยู่ ทำให้รัฐบาลเลือกใช้วิธีโอนเงินโดยตรงในโครงการเราชนะ ให้กับผู้ที่เดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 และให้ครอบคลุมกับประชาชนที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ช่วยชดเชยกับมูลค่าทางเศรษฐกิจที่หายไปด้วย
สำหรับโครงการเราชนะที่จะแจกเงินให้เปล่า 3,500 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 2 เดือน ไม่ได้มีหลักเกณฑ์ว่าให้ไปซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน อย่าง อาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค ซึ่งเห็นว่าควรให้เกณฑ์การใช้เงินกับร้านค้าแบบโครงการคนละครึ่งมากกว่า เพราะไม่แน่ใจว่าเงิน 3,500 บาท จะไปใช้ในลักษณะที่ไม่ก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ เช่น การซื้อของฟุ่มเฟือย การซื้อของที่ไม่ได้ผลิตภายในประเทศ ทำให้เงินเหล่านี้อาจจะไม่ได้ไปช่วยกับธุรกิจเอสเอ็มอีโดยตรง