“กองทุน”ชี้หุ้นพักฐานสั้น ดัชนี1,400จุดจังหวะ“ซื้อ”
“กองทุน” ประสานเสียงการระบาดโควิด-19 รอบใหม่ กดดันเศรษฐกิจไทยชะลอตัว ส่งผลตลาดหุ้นไทยมีโอกาสพักฐานระยะสั้น ด้านบลจ.พรินซิเพิล คาดดัชนีระดับ 1,400 จุด เป็นจังหวะทยอยซื้อ ด้านบลจ.กรุงศรี-บลจ.บางกอกแคปปิตอล ประเมินผลตอบแทนหุ้นไทยปีนี้สูงสุด 8-10%
นายวิน พรหมแพทย์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ทั่วโลกรวมถึงไทยกดดันการฟื้นตัวเศรษฐกิจในปีนี้ชะลอตัวลง ทำให้ระยะสั้นหุ้นไทยมีโอกาสพักฐานลงมาได้ หลังจากเดือน พ.ย.2563-ปัจจุบัน ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาร้อนแรงถึง 30% ซึ่งมองตลาดรับรู้ข่าวร้ายไปเกือบหมดแล้ว แต่หากมีปัจจัยลบใหม่ๆ เข้ามากระทบคาดดัชนีมีโอกาสปรับตัวลงมาถึงระดับ 1,400 จุด ถือเป็นจุดทยอยเข้าลงทุนได้ แต่ในระยะกลางถึงยาวในปีนี้ ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ โดยได้ประโยชน์จากกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาในฝั่งเอเชีย
ดังนั้นกลยุทธ์ในช่วงนี้ต้องรอจังหวะปรับตัวลงเข้าลงทุน หรือใช้วิธีการสับเปลี่ยนกลุ่มและเลือกรายตัว ที่ราคายังไม่ปรับขึ้นมากและได้ประโยชน์จากกระแสการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เช่น กลุ่มพลังงาน แบงก์ ปิโตรเคมี
นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บลจ. กรุงศรี เปิดเผยว่า ระยะสั้นบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย มีแนวโน้มถูกกดดันจากการกลับมาแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ในระยะยาวยังมีแรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (บจ.) หลังจากการพัฒนาวัคซีนเป็นผลสำเร็จ และกระแสเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างประเทศที่มีแนวโน้มไหลเข้าตามค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลง คาดว่าดัชนีสิ้นปีนี้มีโอกาสปรับขึ้นสู่ระดับ 1,560 จุด คิดเป็นผลตอบแทนรวมในอัตราประมาณ 10% จากสิ้นปี 2563
สำหรับกลุ่มหุ้นที่มีความน่าสนใจลงทุน ได้แก่ กลุ่มแบงก์ ได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้นตัว และคุณภาพสินเชื่อปรับตัวดีขึ้น ,กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ มีการเติบโตของผลกำไรในระดับสูง รวมถึงกลุ่มหุ้นวัฏจักรที่เติบโตได้ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกกลับมาฟื้นตัว
นายธนาวุฒิ พรโรจนางกูร รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าสายงานบริหารการลงทุน บลจ. บางกอกแคปปิตอล เปิดเผยว่า ในระยะสั้นตลาดหุ้นไทยอาจพักฐานบ้าง จากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงจากที่คาดและก่อนหน้านี้หุ้นไทยกลับมาเป็นบวกค่อนข้างมากตั้งแต่แต่ปลายปีก่อน แต่ระยะกลางถึงยาวในปีนี้เรายังมีมุมมองเชิงบวกกับตลาดหุ้นไทยในปีนี้ จาก 3 ปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยยังปรับขึ้นไม่มากเมื่อเทียบกับตลาดอื่น มองผลตอบแทนหุ้นไทยปีนี้ราว 7-8% แนะเลือกหุ้นที่ยังราคาไม่ปรับขึ้นมากและเน้นธีมการลงทุนเกาะเมกะเทรนด์ระยะยาว เช่น เทคโนโลยี ที่มีการเติบโตในอนาคตเป็นหลัก