ใจบาป! เปิดวงจรปิดจับคนร้าย หลอกหลวงตา 84 ปี ให้ซื้อโทรศัพท์เชิดเงินหนี

ใจบาป! เปิดวงจรปิดจับคนร้าย หลอกหลวงตา 84 ปี ให้ซื้อโทรศัพท์เชิดเงินหนี

เปิดกล้องวงจรปิด จับคนร้ายหลอกหลวงตา วัย 84 ปี ออกอุบายให้ซื้อโทรศัพท์เชิดเงินหนีลอยนวล

เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 21 ม.ค.64 ร.ต.อ.ประยุทธ พลเยี่ยม รอง สว. (สอบสวน) สภ.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งจากพระเฉลิม สมสวย อายุ 84 ปี พระลูกวัด วัดไผ่โรงวัว หมู่ 11 ต.บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ว่าถูกคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี ใส่หมวกกันน็อคมาหลอกให้ซื้อโทรศัพท์ก่อนจะเอาเงินไป1,600 บาท และหายตัวไป

หลังรับแจ้ง พ.ต.ท.เจริญ หลำคำ สว.สส.สภ.บางตาเถร นำกำลังชุดสืบสวนไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุโดยพระเฉลิม เล่าว่าเมื่อช่วงเช้าได้มีชายอายุประมาณ 30 ปี เข้ามาหาที่กุฏิเอายาดมมาให้และสอบถามว่าหลวงตาอยากให้ช่วยเหลืออะไรบอกได้นะเช่นกาแฟหรือเครื่องดื่ม เดียวจะซื้อมาถวายให้ ก่อนชายคนดังกล่าวจะถามว่าหลวงตาอยากได้โทรศัพท์มือถือใช้หรือเปล่าครับ หลวงตาบอกว่าอยากได้เหมือนกันแต่หลวงตาไม่มีเงิน หลังจากนั้นชายดังกล่าวได้ออกจากวัดไป

ต่อมาช่วงบ่าย ชายคนเดิมได้กลับมาหาหลางตาอีกครั้ง พร้อมกับพาแม่ค้าขายโทรศัพท์มาและนำโทรศัพท์มือถือมาให้หลวงตาเลือกจำนวน 4 เครื่อง หลวงตาตกลงชอบเครื่องละ 1,700 บาท แต่หลวงตามีเงินแค่ 1,600 บาท คนร้ายจึงบอกกับหลวงตาว่าให้เอาเงินมาให้ตน ส่วนที่ขาดอีก 100 บาท คนร้ายบอกจะไปกดเงินออกให้หลวงตา 100 บาท ทั้งที่แม่ค้าขายโทรศัพท์บอกว่าจะลดให้ 100 บาท จากนั้นชายดังกล่าวได้เอาเงินหลวงตา 1600 บาท ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปบอกว่าจะไปกดเงิน 100 บาทให้ ส่วนแม่ค้าโทรศัพท์ ก็นำโทรศัพท์กลับไปรอชายดังกล่าวนำเงินมาให้ที่ร้าน แต่ชายดังกล่าวไม่กลับมาอีก

เบื้องต้น ทราบว่าร้านขายโทรศัพท์มือถืออยู่หลังวัดไผ่โรงวัว เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบพบ น.ส.ปรียาพร อายุ 17 ปี หลานสาวเจ้าของร้านเล่าว่าได้มีชายคนดังกล่าวขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ไม่ติดแผ่นบ้านทะเบียนมาจอดข้างร้านก่อนเข้ามาสอบถามราคาโทรศัพท์มือถือราคาเครื่องละไม่เกิน 2,000 บาท บอกว่าหลวงตาในวัดอยากได้ และอยากให้เอาโทรศัพท์มือถือไปให้หลวงตาดูที่วัด ตนจึงนำโทรศัพท์ 4 เครื่องราคา 1,700 -4,000 บาท ไปให้หลวงตาในวัดดู โดยชายคนดังกล่าวบอกให้ตนนั่งรถไปด้วย แต่ตนไม่รู้จักกับชายดังกล่าว จึงขอขี่รถจักรยานยนต์ตามไปในวัด และพบกับหลวงตาที่กฏิ คิดว่าหลวงตากับชายดังกล่าวรู้จักดัน จึงให้มาติดต่อซื้อโทรศัพท์มือถือให้

กระทั้งหลวงตาบอกว่าเอาเครื่องละ 1,700 บาท แต่หลวงตามีเงินแค่ 1,600 บาท ตนก็บอกว่าเดียวลดให้ก็ได้ 100 บาท และก็เห็นหลวงตาหยิบเงินได้กับชายคนดังกล่าวไป1600บาท ชายอังกล่าวบอกว่าจะไปกดเงินให้อีก 100 บาท แต่ไม่ได้ให้เงินของหลวงตา 1600 บาทมา ตนจึงนำโทรศัพท์กลับมาที่ร้านก่อน โดยขี่รถออกมาพร้อมกับชายดังกล่าวโดยชายคนดังกล่าวมาจอดที่สุ่มประตูหลังวัดบอกว่าจะกดเงินก่อนและจะตามเงินไปให้ไปที่ร้าน ตนจึงขี่รถกลับมารอที่ร้านก็ไม่เห็นมา จึงคิดว่าหลวงตาคงถูกหลอกเอาเงินไปแน่นอน

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงขอดูกล้องวงจรปิดของในร้านโทรศัพท์มือถือ บันทึกถาพชายคนดังกล่าวสวมหมวกกันน็อคใส่ผ้าปิดปากมาจอดข้างร้านก่อนเดินเข้าในร้านพูดคุยอยู่กับคนขาย จากการตรวจสอบกล้องวงจรในวัดบันทึกภาพชายคนดังกล่าวเดินเข้าไปในกุฏิหลวงตาและยังทักพูดคุยกับพระที่นั่งอยู่ และต่อมาได้เดินออกมาพร้อมกับแม่ค้าขายโทรศัพท์

ด้าน ร.ต.อ.ประยุทธ พนักงานสอบสวน เปิดเผยว่าจากการสอบสวนพระเฉลิม ยังให้การวกวนอยู่ เนื่องจากหลวงตาอายุมากแล้ว จึงยังไม่แน่ใจว่าชายดังกล่าวจะใช้คนร้ายหรือไม่ เนื่องจากคำให้การของทั้งสองขัดแย้งกัน ตอนนี้ให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆหากใครรู้จักหรือเป็นบุคลในภาพขอให้มาพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.บางตาเถร เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป