แฉทั้งขบวนการ! ปลอมเฟซบุ๊ก 'ปลัด อบจ.' หลอกยืมเงิน คาดตกเป็นเหยื่อ 20 ราย
เจ้าหน้าที่เทศบาลฯ แฉทั้งขบวนการ! เข้าแจ้งความดำเนินคดี หลังถูกมิจฉาชีพปลอมเฟซบุ๊กเป็น "ปลัด อบจ.ขอนแก่น" หลอกให้โอนเงิน คาดมีผู้เสียหายกว่า 20 คน
น.ส.ชนิสรา ปลื้มบุญญารท เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น ผู้เสียหายได้นำเอกสารการพูดคุยกับคนร้ายที่ปลอมเฟซบุ๊ก ปลัด อบจ.ขอนแก่น หลอกให้โอนเงิน เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ประเสริฐ ตุ้มฉิม รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.บ้านเป็ด เพื่อดำเนินคดีกับ น.ส.นริสรา คนร้ายที่หลอกโอนเงิน โดยเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2564 น.ส.ชนิสรา ยังเป็นคนลงพื้นที่ตามหาคนร้ายที่หลอกให้โอนเงินด้วยตัวเอง จนกระทั่งได้เงินคืนทั้งหมดและเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีในวันนี้
น.ส.ชนิสรา ผู้เสียหายเปิดเผยว่า ตนเองทำงานอยู่ที่เทศบาลตำบลบ้านเป็ด รู้จักและสนิทกันกับปลัดอบจ.ขอนแก่น ซึ่งเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟซบุค ซึ่งมีรูปโปรไฟล์เป็นนางพัฒนาวดี วิริยปิยะ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ทักเข้ามาในข้อความเพื่อขอยืมเงินจำนวน 4,500 บาท อ้างว่าซื้อของออนไลน์แต่แอพพลิเคชั่นธนาคารใช้ไม่ได้จึงให้โอนเข้าบัญชีชื่อ นริศรา ตนเองจึงได้โอนให้ครั้งแรกต่อมาผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ได้ทักเข้ามาขอให้โอนเงินอีก แต่ครั้งนี้เปลี่ยนชื่อบัญชีปลายทางเป็นชื่อนายพีรพงษ์ อีก 4,500 บาท ยังไม่พอยังมีการทักมาให้โอนเงินอีกเป็นครั้งที่ 3 ตนเองจึงตัดสินใจโทรหานางพัฒนาวดีจึงรู้ภายหลังว่าถูกหลอก
จากนั้น ตนเมื่อรู้ว่าถูกหลอกจึงได้ตามหาชื่อ ที่อยู่ บุคคลในชื่อบัญชีคือน.ส.นริสรา ทราบชื่อเล่นภายหลัง กระทั่งรู้ที่อยู่ ซึ่งตนเองบอกว่าถือเป็นความบังเอิญในระหว่างที่ตามหาคนร้ายนั้นได้แวะซื้อน้ำและสอบถามไปยังผู้ช่วยผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นคนที่ขายน้ำดื่มให้ประกอบกับจังหวะที่น.ส.นริสรา คนที่ตนเองตามหาได้มาต่อคิวซื้อน้ำร้านเดียวกัน กระทั่งทราบจึงได้เข้าไปสอบถามว่าได้เป็นคนไปเปิดบัญชีชื่อนี้หรือไม่และได้หลอกให้คนอื่นโอนเงินเข้าบัญชีใช่หรือไม่ ซึ่งน.ส.เปรี้ยว ก็ตอบกลับมาว่าใช่ และขอให้กลับไปเคลียร์กันที่บ้านของตนเอง
ซึ่งต่อมา น.ส.นริสรา หรือเปรี้ยว ได้บอกกับตนเองว่า พี่สาวเป็นคนนำเอาสมุดบัญชีและบัตร ATM ของเธอไปไว้ใช้และคนที่แชทนั้นไม่ใช่ตนเอง แต่เป็นพี่สาวที่อยู่ทางภาคเหนือโดยได้เจรจาเพื่อขอเงินคืน ซึ่งทางพี่สาวของเปรี้ยวได้ยื่นเงื่อนไขว่าหากโอนเงินคืนให้ทั้งหมดขอให้ไม่แจ้งความกับตำรวจ กระทั่งได้เงินคืนกลับมาทั้งหมด ทำให้วันนี้ได้นำเอกสารหลักฐานเข้ามาแจ้งความดำเนินคดี เพื่อให้ตำรวจจับกุมคนร้ายกลุ่มนี้ เพราะคาดว่าน่าจะมีคนที่ถูกหลอกโอนเงินอีกจำนวนมาก ซึ่งเฉพาะในขอนแก่นที่ถูกผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้หลอกไปแล้วประมาณ 20 คน ซึ่งกำลังทยอยกันเดินทางมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดี คาดว่าจะสามารถได้ตัวคนร้ายเร็ว ๆ นี้