ไม่อยากตกงาน! ต้องรู้ตลาดงาน เจาะลึก “อาชีพ” มาแรง ปี 64 ที่องค์กรต้องการ
“งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข” มีงานที่มั่นคง มีรายได้ เงินเดือนเข้ากระเป๋าสม่ำเสมอ ย่อมทำให้การใช้จ่าย ใช้ชีวิตมีความสุข แต่เมื่อใด “ตกงาน” เงินหดหาย ปัญหาอีกล้านแปดประการจะตามมา และกระเทือนคุณภาพชีวิต กระทบความสุขต่อการดำรงชีพในแต่ละวันได้
ทว่า ตั้งแต่โลกเผชิญไวรัสมฤตยู ที่ใครป่วยต้องโดนเชื้อโรคเข้าไปทำลายปอดพังเสียหาย ส่วนผลกระทบที่ตามมาเมื่อนานาประเทศรวมทั้งไทยงัดมาตรการขั้นเด็ดขาดสกัดโรคระบาดด้วยการ “ล็อกดาวน์” ประเทศไปหลายเดือน ทำให้เศรษฐกิจชะงัก ธุรกิจถูกแช่แข็ง ยอม “เจ็บแต่จบ”
หากโลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เมื่อทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ ธุรกิจบาดเจ็บรอบแรก ผู้รประกอบการ “กระอัก-กลืนเลือด” กันถ้วนหน้า เพราะค้าขายไม่ได้ ทำให้บางกิจการส่อเค้าเจ๊ง! จะยักษ์ใหญ่ยักษ์เล็กต้องหันมากำเงินสด “รักษาสภาพคล่อง” ตุนกระสุนทุนให้พออยู่รอด
เมื่อธุรกิจเผชิญความยากลำบาก เปิดกิจการไม่ได้หลาเดือน ยอดขาย รายรับหดหาย ทำให้บางรายต้องจำใจเขย่าโครงสร้างพนักงาน “ลดคน-เลิกจ้าง-ลดเงินเดือน” ส่งผลต่อ “ฐานะทางการเงินส่วนบุคคล” และกระเทือน “อำนาจซื้อ” สินค้าและบริการเป็นลูกโซ่
“มนุษย์เงินเดือน” ที่เคยมีงานทำ กลับต้อง “ตกงาน-ว่างงาน” ส่วนเด็กจบใหม่ โอกาสหางานยากยิ่งขึ้น เพราะตลาดการจ้างงานเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะ แต่ชีวิตจะมืดมิดแปดด้านเลยกระนั้นหรือ “งาน” ทีจะบันดาลเงิน-ความสุข ยังมีอยู่มากน้อยแค่ไหน บริษัทอเด็คโก้ ได้จัดทำ Adecco Thailand Salary Guide ประจำปี 2021 คู่มือฐานเงินเดือนประจำปี ที่ได้รวบรวมอัตราเงินเดือนพนักงานอออฟฟิศจากฐานข้อมูลการจ้างงานผ่านบริษัทในปีที่ผ่านมา พร้อมจัดอันดับอาชีพสุดรุ่งประจำปี อาชีพไหนดาวรุ่ง ตลาดต้องการ เป็นดังนี้
++เปิดโผฐานเงินเดือนและอาชีพสุดรุ่งปี 2564
บริษัทอเด็คโก้ประเทศไทย ซึ่งเป็นเอเยนซี่จัดหางาน(HR Agency)ระดับโลก มีการให้บริการทรัพยากรบุคคลแบบครบวงจร มีลูกค้ามากมายกว่า 3,000 บริษัท และรวบรวมข้อมูลมาสรุปใน Salary Guide 2021 คู่มือฐานเงินเดือนประจำปี 2564 ซึ่งงพบว่าอาชีพที่มีเงินเดือนเริ่มต้นสูงสุดสำหรับเด็กจบใหม่ได้แก่อาชีพในสาย IT ซึ่งสะท้อนความต้องการบุคลากรเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจบนแพลตฟอร์มดิจิทัล
++IT ครองแชมป์เงินเดือนเด็กจบใหม่ สตาร์ทสูงสุด 60,000 บาท
จากข้อมูลการจ้างงานผ่าน Adecco ในปีที่ผ่านมาพบว่าฐานเงินเดือนพนักงานออฟฟิศของเด็กจบใหม่จะเริ่มต้นที่ 12,000 บาท และสูงสุดที่ 60,000 บาท ด้านสายงานที่มีเงินเดือนสูงสุดได้แก่สายงาน IT เนื่องจากกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน โดยมีฐานเงินเดือนอยู่ที่ 18,000 - 60,000 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าปีก่อนจากเดิมที่สูงสุดอยู่ที่ 40,000 บาท
สำหรับอาชีพที่ได้รับเงินเดือนสูงสุดสำหรับเด็กจบใหม่ในปีนี้ ได้แก่ อาชีพ “Software Engineer” ที่มีเงินเดือนสูงสุดอยู่ที่ 60,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทักษะและประสบการณ์ของเด็กจบใหม่ รวมถึงฐานเงินเดือนของแต่ละองค์กรด้วย โดยอาชีพนี้มีช่วงเงินเดือนอยู่ที่ 20,000 - 60,000 บาท โดยส่วนใหญ่แล้วเด็กจบใหม่ที่ได้รับเงินเดือนสูงมักเป็นเด็กจบใหม่ที่มีประสบการณ์การทำงานมาก่อน เคยรับงาน Freelance หรือทำงาน start-up ตั้งแต่ยังไม่จบการศึกษา มีทักษะการเขียนโปรแกรมเฉพาะทางหรือมีความชำนาญในการเขียนโปรแกรมหลากหลายภาษา รวมทั้งต้องสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ในระดับดี-ดีมากเนื่องจากต้องทำงานในองค์กรต่างชาติ
รองลงมาได้แก่อาชีพ Data Scientist หรือ นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล และ Data Engineer หรือวิศวกรข้อมูล ที่มีอัตราเงินเดือนอยู่ที่ 30,000 - 50,000 บาท เนื่องจากเทรนด์การใช้ข้อมูล Big Data กำลังมาแรง องค์กรต้องการคนที่จะมาช่วยออกแบบวิธีการจัดเก็บ เรียกใช้งานข้อมูล รวมไปถึงการวิเคราะห์ ทดลองสมมติฐานต่างๆ และสรุปผลข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น การสร้างสรรค์โปรโมชัน การรักษาฐานลูกค้า และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ สองอาชีพนี้จึงเป็นอาชีพที่ตลาดต้องการสูงและมีฐานเงินเดือนที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับอาชีพอื่นๆ
งานสาย specialist เงินเดือนดี เก่งเฉพาะทางมีสิทธิ์ทำรายได้หลักแสนจากการสำรวจฐานข้อมูลของ Adecco ในปีที่ผ่านมายังพบข้อมูลน่าสนใจว่ามีหลายอาชีพเฉพาะทางที่มีฐานเงินเดือนสูง โดย มีหลายอาชีพที่หากมีความสามารถและประสบการณ์สูงก็สามารถทำเงินเดือนทะลุหลักแสนได้แม้ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งผู้จัดการหรือผู้บริหาร เช่น Financial Controller, Legal Consultant, Research & Development Specialist, Company Secretary ที่บางองค์กรตั้งเพดานเงินเดือนสูงสุดที่ 250,000 บาท ต่อเดือน
++ 6 สายงาน-อาชีพที่ตลาดต้องการสูง ปี 64
จากการวิเคราะห์ข้อมูลจากความต้องการจ้างงานของลูกค้าองค์กรในปีที่ผ่านมาและสำรวจความคิดเห็นจาก Recruitment Consultant และ Business Manager ของ Adecco เราพบเทรนด์อาชีพที่ตลาดมีความต้องการสูงและมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นในปีหน้าดังนี้
สายงาน IT & Digital: ในปีนี้ตลาดงานด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและได้รับผลกระทบจากโควิดน้อยที่สุด หลายองค์กรยังคงเน้นเสริมกำลังคนด้านการเขียนโปรแกรม การออกแบบและพัฒนาระบบ การวิเคราะห์ข้อมูล big data โดยตำแหน่งที่เป็นที่ต้องการมาก ได้แก่ Data Engineer, Data Analytic, Data Science, DevOps Engineer และ Solution Architect
สายงาน Engineering & Technical: ในภาพรวมของตลาดงานด้านวิศวกรยังคงขาดแคลนพนักงานขายและพนักงานในระดับผู้จัดการที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค ประสบการณ์สูง สามารถบริหารทีมงานและแก้ปัญหาหน้างานได้ โดยตำแหน่งที่เป็นที่ต้องการมาก ได้แก่ Sales Engineer, Technical Sales Manager, Production Manager และ Project Manager
สายงาน Finance: แม้งานบางส่วนของสายงานนี้กำลังถูกทดแทนด้วย AI อย่างไรก็ตามองค์กรต่างยังคงต้องการผู้บริหารและเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อมาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและวางแผนกลยุทธ์ด้านการเงินให้กับองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เกิดเหตุวิกฤตทางด้านเศรฐกิจที่เป็นผลพวกจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมา โดยตำแหน่งที่เป็นที่ต้องการมาก ได้แก่ Finance & Accounting Manager (CPD/CPA), Finance Manager (CPD/CPA) และ Financial Controller
สายงาน Sales & Marketing: แนวโน้มความต้องการแรงงานในสายการขายและตลาดในปีนี้ยังคงเน้นเสริมกำลังคนที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญเพื่อรุกตลาดดิจิทัลและสร้างยอดขายให้บริษัทผ่านช่องทางออนไลน์ โดยตำแหน่งที่เป็นที่ต้องการมาก ได้แก่ Digital Manager, Sales Manager และ Brand Manager
สายงาน Japanese Speaking: สำหรับงานที่ใช้ภาษาญี่ปุ่นนั้น องค์กรญี่ปุ่นยังคงมองหาพนักงานที่มีศักยภาพพร้อมทักษะในการทำงานและทักษะการใช้ภาษาญี่ปุ่นที่ดีมาเสริมองค์กรอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการขาย งานธุรการและเลขา และงานวิศวกร
สายงาน Industrial Positions: แม้อุตสาหกรรมหลักในไทยได้รับผลกระทบของโควิด-19 ค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามก็มีบางตำแหน่งที่องค์กรยังคงมีความต้องการสรรหาบุคลากรมาเสริมทีม โดยตำแหน่งที่กำลังเป็นที่ต้องการมีทั้งสายบริหารและสายวิศวกรรม ได้แก่ Accounting & Finance Manager ในสายงานการผลิตและโรงงาน, Sales/Service Engineer ในสาขา EPC ปิโตรเคมี พลังงาน ระบบควบคุมอัตโนมัติ รวมถึงงานในตำแหน่ง Quality & Production Engineer
++Adecco ชี้ ตลาดแรงงานยังเปราะบาง-แข่งขันสูง
ธิดารัตน์ กาญจนวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อเด็คโก้ ประเทศไทย ฉายภาพ ปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจหดตัวและมีการคาดการณ์ว่าต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปีในการฟื้นฟู แม้ปัจจุบันเศรษฐกิจจะมีการฟื้นตัวบ้างแล้ว แต่ก็เป็นเพียงในบางธุรกิจและยังไม่กระจายตัวในทุกกลุ่มรายได้
ธิดารัตน์ กาญจนวัฒน์
ดังนั้น ตลาดแรงงานในปี 2563 และ 2564 จึงมีความเปราะบางสูงจากความไม่แน่นอนของโควิด-19 ที่อาจกลับมาระบาดและส่งผลทางเศรษฐกิจได้ทุกเมื่อ องค์กรและผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงจะยังอยู่ในสภาวะรัดเข็มขัด ชะลอการจ้างคนเพิ่ม บางองค์กรอาจมีการปรับโครงสร้าง ลดจำนวนพนักงานประจำ และหันมาจ้างพนักงานชั่วคราวแทน
ขณะที่การสมัครงานในปี 64 จะมีการแข่งขันสูงกว่าเดิมจากจำนวนคนว่างงานที่สูงขึ้น ผู้สมัครต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กจบใหม่ที่ยังว่างงานอยู่ต้องไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ ควรหาความรู้และประสบการณ์เพิ่มเติมเพื่อพัฒนาทักษะให้ตรงกับความต้องการขององค์กร การจะหางานในยุคนี้ผู้สมัครจะต้องมี hard skills หรือทักษะด้านความรู้ความสามารถที่เกี่ยวกับงานนั้นๆ เมื่อรับเข้ามาแล้วต้องทำงานได้ทันที เพราะธุรกิจทุกวันนี้แข่งกันที่ความไวเป็นสำคัญ
ส่วนด้าน soft skill หรือ ทักษะทางสังคม ก็ยังเป็นทักษะสำคัญที่องค์กรมองหาในตัวผู้สมัคร ไม่ว่าจะเป็นทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น การปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง ความฉลาดทางอารมณ์ ความคิดสร้างสรรค์ และความใฝ่รู้ นอกจากนี้หากผู้สมัครมีทักษะที่หลากหลายก็จะสร้างความได้เปรียบมากขึ้น เพราะแนวโน้มการทำงานในปัจจุบันพนักงานจะมีหน้าที่รับผิดชอบที่หลากหลายมากขึ้นและอาจถูกปรับบทบาทหน้าที่ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป องค์กรจึงต้องการคนที่มีคุณสมบัติเหล่านี้มาเพิ่มความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการดำเนินงาน