'13 ผู้สูงอายุ' โคราช ถูกเรียกเงินคืนคลัง สภาทนายรุดช่วย-อ้างคำพิพากษาศาลฎีกา
งานเข้าคนชรา "13 ผู้สูงอายุ" โคราช ถูกถูกเรียกเงินเบี้ยยังชีพคืนคลัง สภาทนายรุดช่วย-อ้างคำพิพากษาศาลฎีกา
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีพบผู้สูงอายุจำนวน 13 ราย ในพื้นที่ ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ถูกเทศบาลตำบลจอหอ เรียกเก็บเงินค่าเบี้ยยังชีพคืนย้อนหลัง ตามคำสั่งของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง หลังจากตรวจพบว่าผู้สูงอายุเหล่านั้นได้รับเงินบำนาญพิเศษมาก่อนแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
ทางเทศบาลตำบลจอหอ จึงได้มีหนังสือเรียกเก็บเงินคืนย้อนหลัง ทั้งเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย โดยให้ผ่อนชำระรายเดือน ใน 3 เดือนแรก ในอัตราเงินที่สูง บางรายเดือนละ 18,000 บาท หลังจากนั้นให้ผ่อนชำระในอัตราลดหย่อนลงมาจนครบ ซึ่งมีผู้สูงอายุ จำนวน 9 รายที่ยอมจ่ายเงินคืน
ขณะที่อีก 4 ราย ปฏิเสธการจ่ายคืน เนื่องจากเป็นเงินจำนวนมากไม่มีเงินมาจ่ายคืน ทำให้ทางเทศบาลตำบลจอหอ ต้องส่งเรื่องฟ้องไปยังศาลแขวงนครราชสีมา เพื่อพิจารณาคดีทางแพ่งนั้น
ล่าสุด วันนี้ (27 มกราคม 2564) ทางสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา ได้เตรียมยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีการถูกเรียกเงินค่าเบี้ยยังชีพคืนย้อนหลังทั้ง 13 รายแล้ว
นายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวกับลาภที่ไม่ควรได้ ซึ่งกฎหมายเขียนไว้ว่าต้องคืนเงิน แต่หากเงินที่ได้มาใช้จนหมดแล้ว ก็ไม่ต้องคืน โดยกรณีเช่นนี้ศาลฎีกาก็เคยมีคำพิพากษามาแล้วว่าหากมีเงินจากลาภที่ไม่ควรได้เหลืออยู่ก็ให้คืน แต่หากใช้เงินหมดแล้วก็ไม่ต้องคืน ดังนั้นจากกรณีที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุทั้ง 13 ราย ในพื้นที่ ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา
ทางสภาทนายความก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ โดยการหาทนายความอาสาเข้าไปช่วยว่าความให้ฟรี เพื่อไปสู้คดีในชั้นศาล โดยในวันนี้ (27 ม.ค. 64) จะได้ประสานงานไปยังตัวแทนหรือญาติของผู้สูงอายุทั้ง 13 ราย เพื่อให้คำปรึกษาและจัดหาทนายความอาสาไปช่วยเหลือต่อไป