ราชกิจจาฯ เผยแพร่คำพิพากษาจำคุก 'วัฒนา' 50 ปี

ราชกิจจาฯ เผยแพร่คำพิพากษาจำคุก 'วัฒนา' 50 ปี

ราชกิจจาฯ เผยแพร่คำพิพากษาจำคุก "วัฒนา เมืองสุข" 50 ปี คดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร

เมื่อวันที่ 1 ก.พ.64  เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่อง ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การ หรือหน่วยงานของรัฐ

คดีหมายเลขดำที่ อม. ๔๒/๒๕๖๑ คดีหมายเลขแดงที่ อม. ๑๕/๒๕๖๓ ระหว่าง อัยการสุงสุด โจทก์ นายวัฒนา เมืองสุข ที่ ๑ กับพวกรวม ๙ คน จำเลย คดีหมายเลขดำที่ อม. ๑๐๒/๒๕๖๑ คดีหมายเลขแดงที่ อม. ๑๖/๒๕๖๓ ระหว่าง อัยการสุงสุด โจทก์ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ที่ ๑ กับพวกรวม ๕ คน จำเลย

ทั้งนี้ คดีทั้งสองสํานวนนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองสั่งให้รวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน โดยให้เรียกโจทก์ทั้งสองสํานวนว่า โจทก์ เรียกจําเลยที่ ๑ ถึงที่ ๙ในสํานวนแรกว่า จําเลยที่ ๑ ถึงที่ ๙ และเรียกจําเลยที่ ๑ ถึงที่ ๕ ในสํานวนหลังว่า จําเลยที่ ๑๐ ถึงที่ ๑๔ ตามลําดับ

พิพากษาว่า จําเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๘ (เดิม) จําเลยที่ ๔ ถึงที่ ๘ และที่ ๑๐ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๘ (เดิม)ประกอบมาตรา ๘๖

การกระทําของจําเลยที่ ๑ และที่ ๔ ถึงที่ ๘ เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑

ลงโทษจําเลยที่ จําคุกกระทงละ ปีรวม ๑๑ กระทง เป็นจําคุก ๙๙ ปี เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจําคุกจําเลยที่ มีกําหนด ๕๐ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ()

ลงโทษจําเลยที่ จําคุกกระทงละ ปี รวม ๑๑ กระทง เป็นจําคุก ๖๖ ปี เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจําคุกจําเลยที่ มีกําหนด ๕๐ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ()

ลงโทษจําเลยที่ จําคุกกระทงละ ปี รวม กระทง เป็นจําคุก ๒๐ ปี

ลงโทษจําเลยที่ จําคุกกระทงละ ปีรวม ๑๑ กระทง เป็นจําคุก ๔๔ ปี

ลงโทษจําเลยที่ จําคุกกระทงละ ปี รวม กระทงเป็นจําคุก ๓๒ ปี

ลงโทษจําเลยที่ ปรับกระทงละ ๒๕,๐๐๐ บาท รวม ๑๑ กระทงรวมเป็นเงิน ๒๗๕,๐๐๐ บาท

ลงโทษจําเลยที่ ๑๐ จําคุก ปี ให้นับโทษจําคุกจําเลยที่ ต่อจากโทษจําคุกจําเลยที่ ในคดีหมายเลขแดงที่ . ๓๓๓๑/๒๕๕๗, . ๓๓๓๒/๒๕๕๗,. ๓๓๓๓/๒๕๕๗ และ . ๓๓๓๔/๒๕๕๗ ของศาลแขวงสมุทรปราการ และต่อจากโทษจําคุกจําเลยที่ ๑๔ ในคดีหมายเลขแดงที่ อม. ๑๗๘/๒๕๖๐ และ อม. ๑๗๙/๒๕๖๐ ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ให้นับโทษจําคุกจําเลยที่ ต่อจากโทษจําคุกจําเลยที่ ๑๑ ในคดีหมายเลขแดงที่ อม. ๑๗๘/๒๕๖๐ และ อม. ๑๗๙/๒๕๖๐ ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ให้นับโทษจําคุกจําเลยที่ ๑๐ ต่อจากโทษจําคุกจําเลยที่ ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๘๔๘๘/๒๕๕๒ ของศาลจังหวัดพัทยา

ส่วนที่โจทก์มีคําขอให้นับโทษ จําเลยที่ ๑๐ ต่อจากโทษจําเลยที่ ๒๔ ในคดีอาญาหมายเลขดําที่ . ๒๕๔๒/๒๕๕๓ คดีอาญาหมายเลขแดงที่ . ๒๐๗๖/๒๕๖๓ ของศาลอาญา นั้น คดีดังกล่าวศาลอาญามีคําพิพากษายกฟ้องจึงไม่อาจนับโทษต่อได้

หากจําเลยที่ ๘ ซึ่งเป็นนิติบุคคลไม่ชําระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๙ กับให้ริบเงิน จํานวน ๑,๓๒๓,๐๐๖,๗๕๐ บาท โดยให้จําเลยผู้มีหน้าที่ต้องส่งเงินที่ริบชําระเป็นเงินแทน ตามมูลค่าของเงินที่ศาลสั่งริบภายในกําหนด ๓๐ วัน นับแต่วันที่ศาลมีคําพิพากษา หากไม่ชําระภายในระยะเวลากําหนดต้องชําระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินแต่ละจํานวนดังกล่าวจนกว่าจะชําระเสร็จ

จําเลยที่ ๑ ที่ ๔ ที่ ๖ และที่ ๘ ร่วมกันชําระเป็นเงินแทนตามมูลค่า จํานวน ๑,๓๒๓,๐๐๖,๗๕๐ บาท

จําเลยที่ ๕ ร่วมชําระ จํานวน ๗๖๓,๑๙๗,๐๐๐ บาท

จําเลยที่ ๗ ร่วมชําระ จํานวน๑,๐๕๖,๒๖๗,๐๐๐ บาท

จําเลยที่ ๑๐ ร่วมชําระจํานวน ๔๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ไม่ริบเงินตามฟ้อง ข้อ ๒.๖ เฉพาะจํานวน ๘๙,๐๐๐,๐๐๐ บาทและตามฟ้องข้อ ๒.๙ เฉพาะจํานวน ๗,๖๑๐,๐๐๐ บาท

ให้ยกฟ้องโจทก์สําหรับจําเลยที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๙ และที่ ๑๑ ถึงที่ ๑๔

อ่านรายละเอียดทั้งหมดที่นี่