โกง 'เราเที่ยวด้วยกัน' จ่อ!ฟัน 'โรงแรม-ร้านค้า' 900 แห่ง ผู้เกี่ยวข้อง 9,800 คน

2 ก.พ.2564 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องในการทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกันว่า วันนี้กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จะส่งประเด็นไปยังกองบัญชาการตำรวจภูธร 1-9 ทั่วประเทศ เพื่อทำการสอบสวนผู้ให้ถ้อยคำ หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งหลังจากการสอบปากคำแล้วจึงจะพิจารณาข้อเท็จจริงว่าเป็นผู้ต้องหาหรือไม่ ทั้ง 9,800 คน แบ่งเป็น 2 คดี

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงว่าทำไมสิทธิของแต่ละคนไปอยู่ในสถานที่ต่าง ๆ หากพบว่าเป็นผู้ยอมให้สิทธิคนอื่นนำไปใช้สิทธิ มีการรับรู้หรือได้เงินมาไหม หากได้เงินมาจะยินดีชดใช้คืนหรือไม่ เพราะเป็นความผิดฐานฉ้อโกง หากยินดีชดใช้คืนทางผู้เสียหายคือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยอาจจะพิจารณาถอนคำร้องทุกข์ให้หรือไม่

รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายคดีทั้งโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และ โครงการคนละครึ่ง ซึ่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร มีนโยบายให้ตนจัดให้มีการประชุม เพื่อชี้แจงแนวทางให้มันชัดเจน และให้รวดเร็ว โดยให้รองผู้การที่ทำหน้าที่ในการสอบสวนของทุกจังหวัด มาร่วมรับรู้แนวทางการทำงานให้ชัดเจนขึ้นของกองปราบ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปทศ.) ซึ่งดูแลเกี่ยวกับคดีคนละครึ่ง โดยดำเนินการไปแล้ว 1 คดี อยู่ระหว่างดำเนินการอีก 2 คดี หากพบผู้กระทำผิดรายย่อยต่าง ๆ ก็จะดำเนินคดีตามจังหวัดต่าง ๆ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ภาพรวมของโครงการเราเที่ยวด้วยกันที่จะต้องตรวจสอบอีกกว่า 900 แห่ง ทั้งโรงแรม ร้านค้า รวมถึงผู้สวมสิทธิและผู้ใช้สิทธิ โดยจะให้แต่ละพื้นที่เกิดเหตุเป็นคนรับทำคดี โดยยึดแนวทางของกองปราบ และทำงานช่วยกันทั่วประเทศ เช่น ผู้ให้ถ้อยคำอยู่จังหวัดใดก็จะส่งประเด็นให้จังหวัดนั้นเป็นผู้สอบ จะได้ไม่ต้องมีการเคลื่อนตัวมาก เพราะอยู่ในช่วงโควิด-19

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ทั้งนี้ หลายคดีอาจมีแผนประทุษกรรมที่คล้ายกัน เช่น ผู้รวบรวมสิทธิอยู่จังหวัดหนึ่ง ผู้ใช้สิทธิอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง หรือประชาชนผู้ขายสิทธิอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งจะมีการส่งประเด็นให้ช่วยกันสอบทั่วประเทศกว่า 1,400 สถานีตำรวจ