ประกันภัยนาข้าวปี63 เจ๊งพันล้าน
สมาคมประกันวินาศภัย คาดจ่ายสินไหมประกันภัยข้าวปี 63 กว่าพันล้านบาท แม้สถานการณ์ดีกว่าปีก่อน แต่บริษัทประกันยังขาดทุน ด้านธ.ก.ส. เผยจ่ายค่าสินไหมกับเกษตรกรไปแล้ว 8 ครั้งกว่า 370 ล้านบาท
นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯ ได้ประเมินความเสียหายในโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2563 ไว้ประมาณ 8-9 แสนไร่ คิดเป็นวงเงินค่าสินไหมกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งปีนี้ถือว่า สถานการณ์ดีกว่าปีก่อน เนื่องจากไม่ได้เกิดปัญหาน้ำท่วมใหญ่ หรือภัยแล้งรุนแรงเหมือนกับปีฤดูกาลปี 2562 ทำให้มีพื้นที่นาข้าวได้รับความเสียหายไม่มากนัก
“เมื่อรอบฤดูกาลผลิตปี 2562 การประกันภัยนาข้าวมีความเสียหายสูงมากกว่า 4.8 พันล้านบาท เนื่องจากเกิดภัยแล้ง และน้ำท่วมใหญ่หลายพื้นที่ จนทำให้บริษัทประกันต้องขาดทุน เพราะรับเบี้ยประกันมาเพียง 2 พันกว่าล้านบาท ส่วนในปี 2563 แม้ความเสียหายจะลดลง แต่เมื่อถัวเฉลี่ยกับรอบปีก่อนบริษัทประกันก็ยังขาดทุนอยู่ดี ส่วนตัวเลขการจ่ายค่าเคลมโครงการประกันภัยนาข้าวปี ฤดูปี 2563 ล่าสุดสิ้นสุดระยะเวลาขอเอาประกันภัยแล้ว แต่คาดว่าหลังจากนี้จะมีข้อมูลความเสียหายทยอยส่งมาต่อเนื่องจนถึงเดือนมี.ค.-เม.ย.2564 จึงจะสรุปได้ว่าความเสียหายที่แท้จริงของประกันข้าวรอบปี 2563 เสียหายไปเท่าไร”
นางณิชา อวยพรรุ่งรัตน์ ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ขณะนี้ ธ.ก.ส. ได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2563 ไปแล้วจำนวน 8 ครั้งเป็นเงินกว่า 370 ล้านบาท ช่วยบรรเทาความเสียหายและลดความเสี่ยงด้านการผลิตให้แก่เกษตรกรกว่า 32,000 ราย คิดเป็นพื้นที่ปลูกข้าวกว่า 310,000 ไร่
“หลังจากนี้ หาก ธ.ก.ส. ได้รับข้อมูลที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนจะเร่งดำเนินการโอนเข้าบัญชีเงินฝากเกษตรกรโดยเร็ว ให้ทันรอบการผลิตถัดไป ทั้งนี้ ปีการผลิต 2563 มีเกษตรกรให้ความสนใจทำประกันภัยข้าวนาปีจำนวนกว่า 3.4 ล้านราย พื้นที่การเกษตรกว่า 44.3 ล้านไร่”
ปัจจุบันโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2563 ได้สิ้นสุดระยะเวลาการขอเอาประกันภัยแล้ว โดยคุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ 8 ภัย ได้แก่ ภัยน้ำท่วม ฝนตกหนัก ภัยแล้ง ฝนแล้ง ฝนทิ้งช่วง ลมพายุ พายุไต้ฝุ่น ภัยอากาศหนาว น้ำค้างแข็ง ลูกเห็บ ไฟไหม้ ช้างป่า และภัยศัตรูพืช โรคระบาด โดยตามขั้นตอนเมื่อเกษตรกรผู้ทำประกันภัยได้รับความเสียหายจะต้องแจ้งไปที่สำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ และเมื่อสมาคมประกันวินาศภัยไทยได้รับข้อมูลรายงานความเสียหายครบถ้วน จะพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามเงื่อนไขภายใน 15 วัน มาให้ ธ.ก.ส. ดำเนินการโอนเงินค่าสินไหมทดแทนเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกรโดยตรงต่อไป