อุตฯ ตั้งนิคมราชทัณฑ์ สร้างงานผู้พ้นโทษ ลดปัญหาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และ กรมราชทัณฑ์ ประกาศเจตนารมณ์ร่วมในการส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพ พร้อมศึกษาตั้งนิคมราชทัณฑ์ สร้างงานให้ผู้พ้นโทษ ลดปัญหาการลักลอบนำเข้าแรงงานข้ามชาติ สร้างความมั่นคงทางแรงงานไทยได้ในอนาคต
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อคืนคนดีสู่สังคมในระบบงานภาคนิคมอุตสาหกรรม ระหว่าง การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม โดยนางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการ กนอ.กับ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม โดยนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ 2 หน่วยงานในการร่วมกันสร้างสรรค์ให้เกิดวัฒนธรรมแห่งการให้โอกาสกับผู้ที่เคยก้าวพลาดในชีวิตให้กลับมามีชีวิตใหม่และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยร่วมกับกรมราชทัณฑ์ในการเป็นตัวกลางประสานและประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมให้เกิดวัฒนธรรมการให้โอกาสแก่ผู้ก้าวพลาดในสถานประกอบการ สนับสนุนให้มีการจ้างงานที่เป็นแรงงานผู้ต้องขัง ให้มีการพัฒนาทักษะด้านอาชีพ มีการพัฒนายกระดับฝีมือแรงงาน ตลอดจนเป็นการสร้างผู้ประกอบการใหม่ และสร้างงาน สร้างรายได้ในอนาคต ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้อัตราการกระทำผิดซ้ำลดลง และเป็นการคืนคนดีสู่สังคมอย่างยั่งยืน
"ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา การตั้งนิคมราชทัณฑ์ คาดว่าจะนำร่องตั้งที่ จ.สมุทรสาคร และดึงดูดให้ผู้ประกอบการเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานแปรรูปอาหาร โดยเฉพาะสินค้าประมงที่ใช้แรงงานต่างด้าวสูงมาก ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ผู้พ้นโทษมีงานทำลดปัญหาการกระทำผิดแล้วกลับไปสํ่เรือนจำใหม่ และยังช่วยลดปัญหาการพึ่งพาแรงงานต่างด้าวได้เป็นจำนวนมาก"
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า การคืนคนดีสู่สังคมอย่างยั่งยืนและการให้ความหวังแก่ผู้ที่เคยกระทำผิดที่มีความพร้อมและความตั้งใจกลับตนเป็นคนดีให้ได้รับโอกาสและพื้นที่ยืนจากสังคมอีกครั้ง ด้วยการพัฒนาทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และฝึกทักษะอาชีพให้เป็นแรงงานที่มีคุณภาพสามารถรองรับและสนับสนุนความต้องการแรงงานในภาคอุตสาหกรรม อันเป็นการสร้างเสริมเสถียรภาพความมั่นคงทางด้านแรงงาน ลดการพึ่งพิงการนำเข้าของแรงงานข้ามชาติทั้งที่ถูกต้องตามกฎหมายและลักลอบเข้ามาอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาด้านการสาธารณสุขสุขภาวะต่างๆ อีกทั้งเมื่อต้องมีมาตรการผลักดันแรงงานข้ามชาติออกไปอาจส่งผลกระทบให้เกิดการขาดแคลนแรงงานในระบบเศรษฐกิจอย่างกว้างขวางได้ ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้เชิญชวนผู้ประกอบการมาลงทุนให้ผู้ต้องขังได้ฝึกอาชีพ ซึ่งมีเรือนจำชั่วคราวบ้านบึง สังกัดเรือนจำกลางชลบุรี เป็นเรือนจำนำร่องแห่งแรก นอกจากนี้ ยังได้ส่งเสริมให้มีการฝึกทักษะอาชีพในระบบงานอุตสาหกรรม อาทิ 1.กลุ่มประกอบชิ้นส่วนยาง 2.กลุ่มประกอบเฟอร์นิเจอร์ 3. กลุ่มงานโลหะ/งานเชื่อม และประกอบชิ้นส่วนโลหะเป็นผลิตภัณฑ์ 4.กลุ่มอาชีพฝีมือหัตถกรรม และ 5.กลุ่มอาชีพเกษตรแปรรูป เป็นต้น
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ ได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ คุณสมบัติในการคัดเลือกผู้ร่วมโครงการ เพื่อรองรับและส่งต่อระบบงานภาคนิคมอุตสาหกรรม โดยเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ อย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่อยู่ในเรือนจำ/ทัณฑสถาน ได้แก่ การคัดกรอง/จำแนกบุคคลความต้องการทำงาน ทักษะความชำนาญการฝึกทักษะอาชีพ การยกระดับฝีมือแรงงาน รวมถึงทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน เพื่อรองรับและส่งต่อให้กับระบบงานภาคนิคมอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการใช้แรงงานที่ไม่ถูกต้อง ไม่ปลอดภัยจากต่างประเทศและสร้างความเชื่อมั่นด้านการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ส่งเสริมการฝึกอาชีพแรงงานและร่วมมือในการจัดโครงการ/หลักสูตรฝึกอาชีพในสาขาขาดแคลน หรือที่ต้องพึ่" งพิงแรงงานต่างด้าวภายในเรือนจำ/ทัณฑสถาน เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กนอ.
นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการ กนอ.กล่าวว่า กนอ. มีความพร้อมประสานกับสถานประกอบการที่อยู่ในการกำกับของ กนอ. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนและฝึกทักษะการทำงานให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ รวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลโครงการฯให้กับผู้ประกอบการที่อยู่ในกำกับของ กนอ.เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และเปิดใจยอมรับและให้โอกาส ขณะเดียวกันได้ประสานไปยังสถานประกอบการ/นิคมอุตสาหกรรม ที่ยังมีพื้นที่เหลือหรือยังมีศักยภาพให้ใช้เป็นพื้นที่ในการฝึกอาชีพ ส่งเสริมทักษะการทำงาน และการพัฒนาแรงงานทางเลือก และสนับสนุน ส่งเสริมกิจกรรมตามภารกิจด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงยุติธรรมอันเป็นการยกระดับการพัฒนาองค์กรและทรัพยากรมนุษย์ร่วมกัน