‘ลัคกิน’ คู่แข่ง ‘สตาร์บัคส์’ ยื่นล้มละลายในสหรัฐ
“ลัคกิน คอฟฟี” (Luckin Coffee) เชนร้านกาแฟยักษ์ใหญ่ของจีน ยื่นล้มละลายในสหรัฐแล้ว ไม่ถึง 1 ปีหลังพบกรณีอื้อฉาวเรื่องตกแต่งบัญชียอดขายเกินจริงกว่า 1 หมื่นล้านบาทและถูกสหรัฐปรับเงินกว่า 5,400 ล้านบาท
บริษัทลัคกิน คอฟฟี ซึ่งเป็นคู่แข่งของ “สตาร์บัคส์” (Starbucks) ในตลาดจีน ยื่นเรื่องขอปรับโครงสร้างทางการเงินภายใต้มาตรา 15 (Chapter 15) ของประมวลกฎหมายล้มละลายสหรัฐต่อศาลในนครนิวยอร์ก ซึ่งจะช่วยให้ลูกหนี้ต่างชาติสามารถปกป้องทรัพย์สินในสหรัฐได้
“การยื่นล้มละลายไม่ได้หมายความว่าลัคกินจะปิดกิจการ บริษัทสามารถใช้การยื่นล้มละลายเพื่อละทิ้งหนี้ ยุติการดำเนินงานที่ไม่ได้ประโยชน์ และมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักได้” นายเจสัน ยู กรรมการผู้จัดการของกันตาร์ เวิลด์พาแนล เกรทเตอร์ ไชน่า (Kantar Worldpanel Greater China) กล่าว
ความเคลื่อนไหวของลัคกินครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากกรณีพบข้อมูลตกแต่งบัญชีในไตรมาสที่ 2-4 สำหรับปีงบประมาณ 2562 ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นจากความเป็นจริง 2,200 ล้านหยวน หรือประมาณ 10,235 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนยอดขายกว่า 40% ของปี 2562
กรณีดังกล่าวทำให้ในเดือน ธ.ค. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐมีคำสั่งปรับเงินลัคกินจำนวน 180 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 5,400 ล้านบาท และถึงแม้เชนร้านกาแฟจีนยอมจ่ายค่าปรับ แต่ไม่ได้ยอมรับหรือปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
นอกจากนี้ กลต.สหรัฐยังสั่งระงับการซื้อขายหุ้นของลัคกินในตลาดหุ้นแนสแด็กที่นิวยอร์ก เมื่อเดือน มิ.ย. 2563 หลังลัคกินเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นดังกล่าวเมื่อปี 2562
ข้อมูลของบริษัท ณ วันที่ 30 พ.ย. ระบุว่า ลัคกินซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2560 มีสาขารวม 3,898 แห่ง และมีสาขาแฟรนไชส์อีก 894 แห่ง
ลัคกินหวังโค่นบัลลังก์สตาร์บัคส์ในจีน ด้วยการใช้กลยุทธ์เติบโตเชิงรุกใช้แอพจูงใจลูกค้าให้เลือกซื้อกลับบ้านหรือบริการส่งถึงบ้าน รวมทั้งแจกคูปองให้ไม่อั้นผ่านมือถือ และก่อนหน้านี้ ลัคกินยังเคยตั้งเป้าขยายสาขาให้ครบ 10,000 แห่งภายในปีนี้