วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า-ออกซ์ฟอร์ดป้องกันไวรัสโควิดกลายพันธุ์ได้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ข้อมูลใหม่ที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์ (5 ก.พ.) ระบุว่า วัคซีนต้านโรคโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดนั้น มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่พบในอังกฤษในระดับเดียวกับที่ป้องกันไวรัสโควิดสายพันธุ์เดิม

ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ซึ่งมีชื่อว่า B.1.1.7 นั้นมีการกลายพันธุ์เป็นจำนวนมากผิดปกติ และแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ อาจทำให้ผู้ติดเชื้อเสียชีวิตมากกว่าสายพันธุ์เดิม

"แอนดริว โพลลาร์ด" หัวหน้าผู้ตรวจสอบการทดลองวัคซีนของออกซ์ฟอร์ดเปิดเผยในวันศุกร์ว่า "ข้อมูลจากการทดลองวัคซีน ChAdOx1 ในสหราชอาณาจักรบ่งชี้ว่า วัคซีนไม่เพียงแต่ป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิม แต่ยังสามารถป้องกัน B.1.1.7 ซึ่งเป็นไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในอังกฤษพุ่งขึ้นจากช่วงสิ้นปี 2563"

ทั้งนี้ การค้นพบนี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ และพวกเขายังระบุด้วยว่า จากการวิเคราะห์ล่าสุดบ่งชี้ว่า วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า อาจลดการแพร่กระจายของโรคได้

นักวิทยาศาสตร์พบเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์เป็นครั้งแรกทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา และต่อมาได้พบไวรัสชนิดดังกล่าวในประเทศต่างๆ อย่างน้อย 44 แห่งแล้วทั่วโลก รวมถึงสหรัฐ วัคซีนโควิดของแอสตร้าเซนเนก้าและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดมีประสิทธิภาพ 76% ในการป้องกันการติดเชื้อที่มีอาการเป็นเวลา 3 เดือนหลังจากฉีดวัคซีน 1 โดส

ส่วนผลการวิจัยอีกฉบับบ่งชี้ว่า การแพร่เชื้อโควิด-19 ในอังกฤษ ลดลง 67% หลังจากที่มีการฉีดวัคซีนโดสแรกในอังกฤษ