ต่างชาติหวนซื้อหุ้นไทย 4.1 พันล้าน

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลท. กล่าวว่า ในเดือนม.ค.ปี 2564 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นเดือนแรกในรอบ 3 เดือน มูลค่า1.07 หมื่นล้านบาท ถือว่าไม่มากและยังไม่น่ากังวล แต่ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาต่อในระยะถัดไป

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (8ก.พ.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่เปิดตลาดแตะจุดสูงสุดของวันที่ 1,517.31 จุด ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ระดับ 1,516.43 จุด เพิ่มขึ้น 19.82 จุด หรือ 1.32% มูลค่าซื้อขาย 94,278.81 ล้านบาท จากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกมีทิศทางฟื้นตัวดีขึ้น หลังตัวเศรษฐกิจสหรัฐและจีน ดีขึ้น ขณะที่คาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐที่ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์จะมีการอนุมัติ รวมถึงความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนในประเทศ ขณะที่หุ้นที่ขึ้นนำตลาด คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่ปรับขึ้น 4.59% รองมากลุ่ม ปิโตรเคมี ที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ (สเปรด) ดีขึ้น และกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น

ส่วนนักลงทุนต่างประเทศกลับมาซื้อสุทธิ 186.25 ล้านบาท หลังขายติดต่อกันถึง 10 วันทำการ บัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 1,344.38 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 489.54 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 5,041.08 ล้านบาท

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสนักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า หุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นตามคาดจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกจะค่อยๆฟื้นตัว หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจ เช่น ภาคการผลิต การจ้างงานออกมาดีกว่าคาด โดยเฉพาะสหรัฐ ดีกว่าคาดมาก และจีนถือว่าดี

รวมถึงคาดหวังภายใน 1-2 สัปดาห์นี้จะมีความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ และราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น สะท้อนความต้องการใช้ของโลกฟื้นตัว รวมถึงความคืบหน้าวัคซีน ก็จะมีการฉีดมากขึ้น ทำให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงได้ปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจโลกฟื้น หนุนหุ้นกลุ่มวัฎจักรปรับตัวขึ้น เช่น กลุ่ม ธนาคารพาณิชย์ที่ราคาขึ้นยกแผง หุ้นกลุ่มปิโตรเคมี จากสเปรดดีขึ้น และราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน

สำหรับแนวโน้มดัชนีหุ้นไทยวันนี้ (9ก.พ.)คาดว่าแกว่งตัวในลักษณะไซด์เวย์อัพ โดยมองแนวรับที่ระดับ 1,507 จุด แนวต้านที่ระดับ 1,530 จุด โดยแนะนำนักลงทุนหุ้นโกลบอลเพลย์ขนาดใหญ่ที่รับผลดีจากเศรษฐกิจโลกฟื้น