กสร. ขอความร่วมมือนายจ้าง ให้ลูกจ้างหยุดงานเพิ่มเติมกรณีพิเศษ
กสร. ขอความร่วมมือนายจ้าง สถานประกอบกิจการกำหนดวันหยุดเพิ่มเติมให้ลูกจ้างเป็นกรณีพิเศษ และวันหยุดตามประเพณีเพิ่มเติมในแต่ละภูมิภาคให้สอดคล้องตามมติคณะรัฐมนตรีเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และเศรษฐกิจในภาพรวม
นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 ได้กำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ และกำหนดวันหยุดราชการประจำภูมิภาค รวมทั้งการเลื่อนวันหยุดชดเชยวันหยุดราชการ ประจำปี 2564 ซึ่งกำหนดให้ วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 วันจันทร์ที่ 12 เมษายน 2564 วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม 2564 และวันศุกร์ ที่ 24 กันยายน 2564 เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ
และกำหนดให้วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม 2564 เป็นวันหยุดราชการประจำภาคเหนือ (ประเพณีไหว้พระธาตุประจำปี) วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม 2564 เป็นวันหยุดราชการประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ประเพณีงานบุญบั้งไฟ) วันพุธที่ 6 ตุลาคม 2564 เป็นวันหยุดราชการประจำภาคใต้ (ประเพณีสารทเดือนสิบ) และวันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม 2564 เป็นวันหยุดราชการประจำภาคกลาง (เทศกาลออกพรรษา)
รวมถึงให้เลื่อนวันหยุดชดเชยวันปิยมหาราชจากวันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม 2564 เป็นวันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม 2564 เพื่อเป็นการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวอันจะส่งผลกระทบเชิงบวกต่อภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ นั้น
กสร. จึงขอความร่วมมือนายจ้าง สถานประกอบกิจการภาคเอกชน กำหนดให้วันที่ 12 กุมภาพันธ์ วันที่ 12 เมษายน วันที่ 27 กรกฎาคม และวันที่ 24 กันยายน2564 เป็นวันหยุดเพิ่มเติมให้ลูกจ้างเป็นกรณีพิเศษ และกำหนดวันหยุดตามประเพณีเพิ่มเติมให้ลูกจ้างในแต่ละภูมิภาคโดยให้สอดคล้องตามมติคณะรัฐมนตรีข้างต้น รวมถึงในกรณีวันหยุดตามประเพณี (วันปิยมหาราช) หากวันที่ 23 ตุลาคม ตรงกับวันหยุดประจำสัปดาห์ ของลูกจ้าง นายจ้างอาจตกลงกับลูกจ้างให้ได้หยุดชดเชยวันหยุดตามประเพณีในวันทำงานถัดไป
หรืออาจประกาศให้วันที่ 22 ตุลาคม เป็นวันหยุดเพิ่มเติมได้เพื่อให้ลูกจ้างได้มีวันหยุดต่อเนื่องและสามารถเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยวต่างจังหวัด เพื่อสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทั้งนี้นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างในวันหยุดดังกล่าวให้แก่ลูกจ้างด้วย หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานคร ทั้ง 10 พื้นที่ หรือสายด่วน 1506 กด 3