‘กำหนดเพดานราคา-เพิ่มนำเข้า’แก้ปัญหาอาหารฟิลิปปินส์แพง

‘กำหนดเพดานราคา-เพิ่มนำเข้า’แก้ปัญหาอาหารฟิลิปปินส์แพง

ฟิลิปปินส์กำลังเจอปัญหาราคาอาหารจำเป็นทะยานท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยล่าสุด ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตอของฟิลิปปินส์ กำหนดเพดานราคาเนื้อและเพิ่มการนำเข้าเพื่อบรรเทาปัญหาราคาอาหารพุ่ง

เมื่อคำสั่งกำหนดเพดานเนื้อหมูและไก่เป็นเวลา 60 วันของประธานาธิบดีดูเตอร์เตมีผลบังคับใช้ในวันจันทร์ (8ก.พ.) บรรดาผู้ค้าปลีกเนื้อในตลาดปาโคของกรุงมะนิลากว่า 300 ร้านตัดสินใจยุติการทำธุรกิจเป็นการชั่วคราว

“ผู้ขายไม่สามารถหาซัพพลายเออร์ที่พวกเขาจะขายสินค้าให้ในราคาที่รัฐบาลกำหนดไว้ได้บางร้านจึงตัดสินใจยุติการขายไว้ชั่วคราวหรือไม่อยากเสี่ยงถูกลงโทษหากไม่ขายตามราคาที่ทางการกำหนด ”เฮกเตอร์ ซาลองกา รองประธานสมาคมเจ้าของแผงในตลาดปาโค กล่าว

ปัญหาราคาเนื้อหมูและไก่ที่เพิ่มขึ้น ตอกย้ำสถานการณ์ยากลำบากในการดำเนินชีวิตของชาวฟิลิปปินส์ที่กำลังรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 ที่สร้างผลกระทบอย่างหนักแก่เศรษฐกิจของประเทศนี้จนทำให้อยู่ในภาวะถดถอย แม้ว่าคณะเจ้าหน้าที่รัฐบาลฟิลิปปินส์จะมองว่าราคาสินค้าทะยานเป็นเรื่องชั่วคราว ไม่ยืดเยื้อแต่นักเศรษฐศาสตร์บางคนเตือนว่าราคาสินค้าอาจจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีนี้ ซึ่งหากเป็นจริงย่อมบั่นทอนอำนาจซื้อของผู้บริโภคฟิลิปปินส์หลายล้านคนและสร้างความยากลำบากในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศนี้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำนักงานสถิติของฟิลิปปินส์ รายงานว่า ภาวะเงินเฟ้อในเดือนม.ก.เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 4.2% ปีต่อปี ถือเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 24 เดือน โดยสำนักงานสถิติฟิลิปปินส์ ระบุว่า เนื้อหมูเป็นข่าวหน้าหนึ่งของสื่อทั้งกระแสหลักและสื่อสังคมออนไลน์มาตั้งแต่คริสต์มาส ราคาเนื้อหมูในเขตเทศบาลกรุงมะนิลาทะยาน 77% ในเดือนม.ค. หนุนให้ราคาอาหารประเทศเนื้อทุกประเภทปรับตัวขึ้น 17.1% ส่วนราคาผักเพิ่มขึ้น 21.2%

ราคาอาหารเพิ่มประกอบกับภาวะตึงตัวของเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานอันเนื่องมาจากโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรที่สร้างความเสียหายแก่ฟาร์มเลี้ยงหมู ประกอบกับพายุไต้ฝุ่นหลายลูกที่พัดหน่ำเข้าฟิลิปปินส์ช่วงปลายปีที่แล้วและทำลายพืชผลทางการเกษตร

“มีโอกาสมากที่ภาวะเงินเฟ้อทั้งปีจะมากกว่าที่ธนาคารกลางคาดการณ์คือ 4% หากปัญหาระบบห่วงโซ่อุปทานที่ตึงตัวไม่ได้รับการแก้ไข และมีความเป็นไปได้สูงว่าราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่หนุนราคาสินค้าทะยานขึ้น”เอมิลโล เนริ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากแบงก์ ออฟ ฟิลิปปินส์ ไอแลนด์ กล่าว

นอกจากกำหนดเพดานราคาอาหารในเขตเทศบาลกรุงมะนิลาแล้ว ประธานาธิบดีดูเตอร์เต ยังอนุมัติให้มีการนำเข้าเนื้อหมูเพิ่่มขึ้น โดยคาร์โล โนกราเลส เลขาธิการคณะรัฐมนตรีฟิลิปปินส์ ออกแถลงการณ์เตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า รัฐบาลจะตามล่าผู้ลักลอบนำเข้า แสวงหากำไรเกินควรและผู้กักตุนอาหารมาลงโทษ

ครั้งล่าสุดที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ดำเนินมาตรการพิเศษเพื่อบรรเทาปัญหาราคาอาหารทะยานคือเมื่อปี 2561 เมื่อราคาข้าวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ10 ปีจากปัญหาข้าวขาดแคลน ซึ่งเปิดทางไปสู่การออกกฏหมายให้เสรีภาพในการนำเข้าข้าว แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดการลักลอบนำเข้าข้าวจากเวียดนามและไทยในปริมาณมาก นโยบายของรัฐบาลส่งผลกระทบต่อชาวนาฟิลิปปินส์แม้จะรักษาราคาข้าวให้มีเสถียรภาพ

“รอย เคมพิส” ศาสตราจารย์จากแพมพังกา สเตท อะกริคัลเจอรัล ยูนิเวอร์ซิตี้ เชื่อว่า ปัญหาราคาอาหารพุ่งจะเกิดขึ้นชั่วคราว โดยราคาอาหารที่ทะยานในช่วงไตรมาส4อาจจะขยายถึงเดือนม.ค.เนื่องจากมาตรการคุมเข้มต่างๆ รวมทั้งการห้ามรวมกลุ่มกันในช่วงคริสต์มาส

อย่างไรก็ตาม ความพยายามต่างๆของรัฐบาลที่จะช่วยนำแหล่งผลิตเนื้อหมูและไก่จากภาคกลางและภาคใต้ของฟิลิปปินส์มายังตลาดหลักอย่างเกาะลูซอนซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์อาจจะยังไม่เพียงพอ

“พอล โฮลายาซัน” ประธานสมาคมผู้ผลิตเนื้อหมูวิสายากลาง ให้ความเห็นว่า ปริมาณเนื้อหมูและไก่ของภูมิภาคไม่เพียงพอที่จะเข้าไปชดเชยกับปัญหาการขาดแคลนเนื้อหมูและไก่บนเกาะลูซอน พร้อมทั้งกล่าวเพิ่มเติมว่า การกำหนดเพดานราคาอาหารของรัฐบาลส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่บอบช้ำอยู่แล้วจากปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรระบาดและจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบห่วงโซ่อุปทานเนื้อหมู และจะบั่นทอนความตั้งใจของบรรดาเจ้าของฟาร์มที่มีแผนขยายฟาร์ม รวมทั้งดับฝันของเหล่าเจ้าของฟาร์มที่ต้องการเริ่มต้นทำฟาร์มเลี้ยงสุกร