(11 ก.พ.) ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีฟอกเงินยาเสพติด หมายเลขดำ อย.2201/2560 ที่พนักงานอัยการคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง อายุ 34 ปี นักแข่งรถชื่อดัง , นายสรรเสริญหรือเน็ต รสานนท์ อายุ 39 ปี ภูมิลำเนา จ.นนทบุรี , น.ส.อังสุพรหรืออุ้ม อินา อายุ 33 ปี ภูมิลำเนา จ.น่าน ซึ่งทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน เป็นจำเลยที่ 1-3
ในความผิดฐานฐานฟอกเงินและสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินฯ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3,5,9,60 และสนับสนุนหรือช่วยเหลือหรือสมคบค้ายาเสพติด ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 3,4,6,10,14 และ พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522
คดีนี้ อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 26 พ.ค.2560 ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อต้นเดือน พ.ย.2559 -2 ก.พ.2560 จำเลยทั้งสาม กับนายณัฐพลหรือบอย นาคคำ จำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำ อย.2187/2560 , อย.1883/2560,อย.1257/2560 ของศาลอาญา , นายชัยวัฒน์หรือแป๊ะ ชูสาย จำเลยคดียาเสพติด ซึ่งศาลมีคำพิพากษาไปแล้วคดีหมายเลขแดง อย.1679/2560 กับนายนพ หรือบาส รัตนวิสุทธิ์ จำเลยคดียาเสพติด หมายเลขดำ อย.838/2560 ของศาลอาญา พวกที่หลบหนีและยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันสมคบสนับสนุนช่วยเหลือเพื่อกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดชนิดยาไอซ์และยาบ้าที่เป็นยาเสพติดประเภท 1 และร่วมกันวางแผนแบ่งหน้าที่กันทำในการเป็นผู้จัดหา ครอบครอง เก็บรักษา ลำเลียงยา หาลูกค้าและเป็นเครือข่ายการรับยาเสพติด รวมทั้งจัดการด้านการเงินที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายยาเสพติดที่นายณัฐพลหรือบอย กับพวกเป็นผู้จัดหายาเสพติดและเป็นผู้ประสานงานในการขนถ่ายลำเลียง ซึ่งวันที่ 26 พ.ย.59 เจ้าพนักงานได้จับกุม นายนพหรือบาส กับพวกได้พร้อมของกลางยาบ้า 140,000 เม็ด และยาไอซ์ชนิดเกล็ดสีขาว น้ำหนัก 19 กก.เศษ โดยนายณัฐพล หรือบอย นาคคำ ได้โอนเงินที่กระทำเกี่ยวกับยาเสพติดผ่านบัญชีธนาคารบุคคลอื่น
ส่วนนายอัครกิตติ์ (เบนซ์) , นายสรรเสริญ และน.ส.อังสุพร จำเลยที่ 1-3 เปิดบัญชีธนาคารเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งได้มีการจัดการรับฝากเงินและโอนเงินค่ายาเสพติดไปยังบัญชีธนาคารชื่อนายอู๋ ปังโอฬารภาวะกุล , นายสุวัฒน์ พวงมาลี ที่เป็นเครือข่ายของนายณัฐพลหรือบอย เพื่อปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินซึ่งเป็นการช่วยเหลือให้นายณัฐพลหรือบอยกับพวก ไม่ต้องรับโทษ โดยระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.57 1 ก.พ.60 มีการโอนและรับโอนเงินตามคำสั่งของนายณัฐพล รวม 53 ครั้ง เป็นเงิน 11,072,547 บาท โดยยังมีการโอนเงิน ซึ่งนายอัครกิตติ์ จำเลยที่ 1 ได้รับจากนายณัฐพลไปซื้อรถลัมโบกินีและรถจักรยานยนต์ราคาแพงด้วย เหตุเกิดที่แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม , แขวงจอมทอง เขตจตุจักร , แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ , เขตจตุจักร , แขวง-เขตดินแดง กทม. เกี่ยวเนื่องกับ ต.บางขุนกอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
โดยในชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณา "นายอัครกิตติ์" จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วนนายสรรเสริญหรือเน็ต และน.ส.อังสุพรหรืออุ้ม สามีภรรยา ที่ตกเป็นจำเลยที่ 2-3 ให้การรับสารภาพฐานฟอกเงินในชั้นพิจารณา ขณะที่ภายหลังถูกอัยการฟ้องเป็นคดีแล้ว "นายอัครกิตติ์"หรือเบนซ์ ได้รับการประกันตัว ส่วนนายสรรเสริญ จำเลยที่ 2 ถูกคุมขังอยู่ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง และ น.ส.อังสุพร จำเลยที่ 3 ถูกคุมขังไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 7 ก.ย.2561 ให้จำคุก "นายอัครกิตติ์" จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 8 ปี ฐานร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ม.5 , 60 และให้ยกฟ้องข้อหาสนับสนุนหรือช่วยเหลือหรือสมคบค้ายาเสพติด ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ และ พ.ร.บ.มาตรการในการป้องกันและปรามยาเสพติดฯ
ส่วนนายสรรเสริญ และน.ส.อังสุพร จำเลยที่ 2-3 ให้จำคุกฐานสนับสนุนหรือช่วยเหลือหรือสมคบค้ายาเสพติด และฐานร่วมกันฟอกเงิน คนละ 8 ปี ,ฐานร่วมกันฟอกเงิน ซึ่งให้การรับสารภาพ จึงลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุกฐานฟอกเงินคนละ 4 ปี และฐานสมคบกันทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้จำคุกอีกคนละ 20 ปี กับปรับคนละ 400,000 บาท รวมจำคุกจำเลยที่ 2-3 ทั้งสิ้น คนละ 24 ปี และปรับคนละ 400,000 บาท
ในวันนี้ นายอัครกิตติ์ ซึ่งได้รับประกันตัวเดินทางฟังคำพิพากษา ขณะที่ นายสรรเสริญ , น.ส.อังสุพร จำเลยที่ 2-3 มาจากเรือนจำพร้อมฟังคำพิพากษา โดยมีญาติและเพื่อนสนิทมาให้กำลังใจ
โดยศาลอุทธรณ์พิพากษาเเก้เพิ่มโทษ นายอัครกิตติ์ จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานสนับสนุนช่วยเหลือหรือสมคบค้ายาเสพติด เเละฟอกเงินลงโทษจำคุกรวม 36 ปี 8 เดือน ปรับ 3,333,333.33 บาท
ส่วนจำเลยที่ 2-3 ปี ลงโทษจำคุก 22ปี 6 เดือนปรับ 4 เเสนบาท
ภายหลังฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เพิ่มโทษ เบนซ์ เรซซิ่ง มีสีหน้าเศร้าเเต่ยังยิ้มเเละได้สวมกอดมารดา พร้อมบอกว่า โทษสูงขนาดนี้คงไม่ได้ประกัน ไม่เป็นไร ยังเหลือการต่อสู้อีกหนึ่งศาล